ฟ้าพิโรธผ่าบ้าน “นายช่างชลประทาน” บุรีรัมย์ ไฟลุกไหม้เผาหลังคา-ห้องนอนวอด

บุรีรัมย์ - ฟ้าพิโรธผ่ากลางหลังคาบ้านพักนายช่างชลประทาน เกิดไฟลุกไหม้หลังคาและลามไปยังห้องนอน แต่ขณะเกิดเหตุนายช่างและภรรยาออกไปรอรับลูกเรียนพิเศษ เจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านต้องทุบกระจกเข้าไปฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม ห้องนอนลูกชายถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 13 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ได้รับแจ้งเกิดเหตุฟ้าผ่าและเพลิงไหม้บ้านพักเจ้าหน้าที่โครงการชลประทาน จ.บุรีรัมย์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.เสม็ด และ อบต.ใกล้เคียง รุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้บริเวณหลังคาบ้านพักของ นายชยกร ฤทธิลอด อายุ 48 ปี นายช่างชลประทานชำนาญงาน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของสำนักงานโครงการชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ แต่ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน เนื่องจาก นายชยกร และภรรยาได้ขับรถออกไปรอรับลูกสาวที่เรียนพิเศษอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิงยังจุดต้นเพลิงซึ่งอยู่บริเวณห้องนอนได้

เจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านจึงตัดสินใจทุบกระจกหน้าต่างเพื่อเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิงไม่ให้ลุกลาม ซึ่งใช้เวลาในการฉีดน้ำดับเพลิงนานเกือบ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ

หลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบฝ้าเพดาน หลังคา ฝาผนังห้องนอนของลูกเจ้าของบ้านและข้าวของภายในห้องถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ส่วนห้องของนายชยกรถูกเพลิงไหม้เสียหายบางส่วน แต่โชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่บ้านใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น ใกล้กับบ้านของนายชยกร จากนั้นก็เห็นไฟลุกไหม้บริเวณหลังคา จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดฟ้าผ่าบริเวณหลังคาก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น

อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองวิทยาการมาตรวจพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง

สอบถาม นายชยกร ฤทธิลอด นายช่างชลประทานชำนาญงาน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนและภรรยาได้ขับรถออกไปรอรับลูกสาว ซึ่งเรียนพิเศษอยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ สักพักมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่าเกิดไฟไหม้บ้านจึงรีบขับรถกลับบ้านทันที

เบื้องต้นเพื่อนบ้านได้พยายามช่วยกันดับเพลิงแล้วแต่ไม่สามารถดับได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่มาช่วยระดมฉีดน้ำจึงสามารถดับได้ แต่ห้องนอนลูกชายถูกไหม้ไฟเสียหายทั้งหมดแล้ว ซึ่งจากการประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุดังกล่าว