ศูนย์ข่าวศรีราชา - ครอบครัวนักเที่ยวอุทยานธรรมชาติ เผยวินาทีถูกช้างป่าบุกทำร้ายเจ็บสาหัสยกครัว บริเวณลานเนินกูดดอย อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอนุชา โถทอง อายุ 47 ปี และนางเยาวลักษณ์ นครวงษ์ อายุ 44 ปี กรณีที่ครอบครัวถูกช้างป่าทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่อุทยานแห่งชาติผาทองภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.58
โดย นายอนุชา เปิดเผยว่า วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้พาครอบครัว ประกอบด้วย ภรรยา และลูกสาววัย 8 ขวบ ไปเที่ยวพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติผาทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยจอดรถกางเต็นท์นอนบริเวณลานเนินกูดดอย ซึ่งเป็นลานกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อุทยานกำหนดไว้ ขณะนั้นมีนักท่องเที่ยวอีก 2 กลุ่มพักอยู่บริเวณดังกล่าวด้วย หลังจากที่ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เสร็จแล้วจึงพากันเข้านอน
ต่อมา เวลาประมาณ 02.00 น. ก็ได้ยินเสียงบางอย่างมาจากรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ เต็นท์ จึงพยายามเปิดเต็นท์ดูแต่กลับถูกสัตว์ขนาดใหญ่พุ่งเข้าชน และเตะอย่างแรง จนคนในเต็นท์กระเด็นไปคนละทิศละทาง ก่อนที่จะตั้งสติลุกขึ้นยืนเพื่อพยายามมองหาภรรยา และลูกสาว กระทั่งได้ยินเสียงลูกสาวร้องจึงรีบวิ่งไปหาก่อน แล้วพาไปหลบบริเวณต้นไม้ใหญ่ จนมีนักท่องเที่ยวที่พักอยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมกับเรียกเจ้าหน้าที่อุทยานซึ่งอยู่ภายในป้อมสังเกตการณ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร
จากนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานกว่า 10 คน ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ
เบื้องต้น พบว่าภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ ไหปลาร้าซ้ายหัก กระดูกรอบดวงตาแตก ส่วนตนเอง และลูกสาวมีแผลถลอก และฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ก่อนจะพากันเดินทางมารักษาต่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
สอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานทราบว่า ในที่เกิดเหตุพบรอยเท้าช้างป่าขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวกว่า 48 ซม. ซึ่งคาดว่าช้างตัวดังกล่าวอาจจะหลงออกมาจากฝูง หรือเป็นช้างโทนที่หากินเพียงลำพังที่หลงเข้ามาในเขตอุทยานก่อนจะตรงเข้าทำร้าย นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานได้มอบเงิน 10,000 บาท เพื่อเยียวยารักษาในเบื้องต้น
นายอนุชา กล่าวว่า รู้สึกเสียขวัญเป็นอย่างมาก วิตกกังวลตลอดเวลา แต่ขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้ว ตนเองท่องเที่ยวมากว่า 20 ปี ก็ไม่เคยมีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น แต่หลังจากนี้จะต้องเลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น และมีเจ้าหน้าคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของครอบครัว