ร้อยเอ็ด - พ่อเมืองร้อยเอ็ด ปลุกจิตสำนึกคนทำงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เลิกนิสัยด้านได้อายอด เปลี่ยนเป็น เกรงกลัวและละอายต่อบาป อย่ายกย่องคนโกงปล้นเงินชาติ ร่วมกันสร้างความมีวินัยคือไทยแท้ ผนึกกำลังต้านทุจริต ร่วมสร้างชาติอย่างยั่งยืน
วันนี้ (9 มิ.ย. 58) ที่ห้องประชุมโรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงาน ป.ป.ช.ร้อยเอ็ดจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่าย อปท.โปร่งใส หัวใจคุณธรรม ปี 2558 ขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นการประชุมครั้งที่ 10 จากการประชุมทั้งหมด 14 ครั้งทั่วประเทศ ตามนโยบายของ ป.ป.ช. กำหนดใช้ความร่วมมือระหว่าง สำนักป้องกันการทุจริตภาคการเมือง สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดทั่วประเทศ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบด้านการป้องกันการทุจริต เข้าร่วมโครงการ มีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุม
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบด้านการป้องกันการทุจริตได้มีความรู้และขยายเครือข่ายด้านการป้องกันการทุจริต ให้มีส่วนร่วมรักษาประโยชน์และงบประมาณอันจะสร้างประโยชน์ให้แก่สาธารณะให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีผู้เข้าประชุมประกอบด้วย คณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 28 แห่ง จำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมประชุม
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด บรรยายพิเศษให้แนวทางปฏิบัติแก่ผู้ร่วมโครงการงานว่า ถึงเวลาที่จะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ต้องการให้ข้าราชการเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เกิดความโปร่งใส และเปลี่ยนภาพเดิมที่ยกย่องคนมีเงินและมาจากการทุจริต หันกลับมาเน้นการมีจริยธรรม ทำความดี ยกย่องคนดี อย่ายอมแพ้คนไม่ดีที่ใช้เงินมาทำลายความถูกต้องทางสังคม ให้ทำงานชนะใจประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ ผนึกกำลังกันต่อต้านการทุจริต ร่วมสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ประเทศไทย
“อยากให้ทุกคนหันกลับมาร่วมกันพัฒนาคุณธรรมและใช้จริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ อยากปลุกจิตสำนึกประชาชนให้ยกเลิกภาษิต ด้านได้อายอด เปลี่ยนเป็น ละอายเกรงกลัวต่อบาป นำไปใช้ ยกเลิกแนวคิด “ทำตามสบายคือไทยแท้” กลับมาร่วมกันสร้างและปลูกฝังแนวคิดใหม่ คือ มีวินัยคือไทยแท้แทน เลิกการชื่มชมคนโกงทุกระดับชั้น เลิกยกย่องหรือยอมรับลาภสักการะจากคนโกงที่จะเข้ามาทุจริตต่อชาติบ้านเมือง เพื่อให้ประเทศและสังคมมีความสุขอย่างแท้จริงยั่งยืนต่อไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าว