ศูนย์ข่าวจขอนแก่น - ตำรวจภาค 4 ผนึกตำรวจท่องเที่ยวรวบชาวไนจีเรียร่วมขบวนการแก๊งหลอกสาวโอนเงิน เผยล่าสุดหลอกสาวใหญ่โอนเงินนับแสนผ่านสื่อเฟซบุ๊ก และโทรศัพท์ อ้างเหตุถูกศุลกากรกักตัวที่สนามบิน ด้านผู้ต้องหาสารภาพได้ส่วนแบ่งร้อยละ 10 และทำเป็นขบวนการ
วันนี้ (7 มิ.ย.) พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ธนกิจไพโรจน์ สว.สทท.3 กก.3 บก.ทท. (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน บก.สส.ภ.4 สนธิกำลังร่วมตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น เข้าจับกุม Mr.Stephen Chukwuemeka Ejeliogu ชาวไนจีเรีย ภายในตลาดโต้รุ่งขอนแก่น
พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็ม และเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยผู้ต้องหาดังกล่าวอยู่ในเครือข่ายขบวนการหลอกลวงโอนเงินข้ามชาติ โดยมีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ไทรน้อย มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่งของผู้ต้องหาภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังของ จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายแก๊งหลอกลวงคนไทยให้โอนเงินนั้นยังคงกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้เป็นหนึ่งในแก๊งชาวไนจีเรีย ในประเทศไทย ที่จะติดต่อหญิงสาวชาวไทยผ่านเฟซบุ๊กหลอกลวงรูปแบบต่างๆ โดยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ไทรน้อย
ทั้งนี้ จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทำหน้าที่กดเงินสดที่เหยื่อโอนเงินเข้ามาส่งให้แก่หัวหน้าแก๊ง หรือผู้ร่วมขบวนการโดยได้รับค่าตอบแทนสัดส่วนร้อยละ 10 ของเงินที่สามารถหลอกมาได้ และจะตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหญิงสูงอายุฐานะดี ซึ่งรู้จักผ่านทางเฟซบุ๊กมาได้ 2-3 เดือน กระทั่งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้รับการประสานงานจากคนไทยที่ร่วมขบวนการชื่อว่า น.ส.บุษดี อบเชย ว่า ชาวต่างชาติคนดังกล่าวนั้นได้นำเงิน จำนวน 30 ล้านปอนด์เข้ามาในประเทศไทย แต่ถูกตำรวจกักตัวไว้ที่สนามบินภูเก็ต หากจะช่วยเหลือจะต้องโอนเงินค่าภาษี จำนวน 28,000 บาทไปให้ จึงหลงเชื่อโอนเงินรอบแรกไปให้ตามหมายเลขบัญชีที่ส่งมา
จากนั้นไม่นานได้รับการติดต่อมาอีกว่า ยังคงมีค่าปรับอีก 64,000 บาท แต่สามารถเคลียร์ใต้โต๊ะให้แก่เจ้าหน้าที่ได้ที่ราคา 30,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว จึงหลงเชื่ออีก และโอนเงินให้อีก 30,000 บาท ถือเป็นการโอนเงินเป็นครั้งที่ 2 ให้แก่แก๊งชาวไนจีเรีย
พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว 2 ครั้ง ได้ติดต่อกับ น.ส.บุษดี เพื่อสอบถามความคืบหน้า กระทั่งวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่า ชาวต่างชาติ และเงิน 30 ล้านปอนด์ มาอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากรไม่ยอมปล่อยตัว ต้องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องโอนเงินให้อีก 64,000 บาท เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้อีกเป็นครั้งที่ 3 พร้อมทั้งจะไปรับตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่สนามบินดอนเมือง แต่เมื่อไปถึง และรอจนเย็นก็ไม่พบกับชาวต่างชาติที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่สามารถติดต่อกับ น.ส.บุษดี ได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่ และเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังต้องสูญเสียเงินไปรวมกว่า 122,000 บาท
จากการสอบปากคำเพิ่มเติมพบว่า ผู้ต้องหารู้จักกับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน และเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มดังกล่าวอีกมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนจับกุมกลุ่มขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศไทย นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ผู้ต้องหาดังกล่าวได้ส่งมอบตัวให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย