บุรีรัมย์ - ผู้บังคับการ จทบ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจชาวบ้านถูกผลักดันออกจากป่าดงใหญ่ ที่ยังปักหลักอยู่ตามสวนยางและสำนักสงฆ์เพื่อรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ห้ามไม่ให้เข้าไปบุกรุกป่าซ้ำอีก ย้ำฝ่าฝืนเอาผิดตามกฎหมายทันที
วันนี้ (3 มิ.ย.) พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.อ.นิเวศน์ ฉายากุล รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์, พ.ต.อ.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, นายชวภณ ประชิตวัติ นายอำเภอโนนดินแดง และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาชาวบ้านและผู้ไม่มีที่ทำกินเข้าไปบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ซ้ำอีกระลอก
ก่อนลงพื้นที่เข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านผู้บุกรุกป่าดงใหญ่ 3 ใน 6 กลุ่ม ที่ถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันออกจากป่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมเดินทางกลับภูมิลำเนา ยังปักหลักปลูกสร้างที่อยู่อาศัยอยู่ในป่ายาง บ้านซับคะนิง ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. และสำนักสงฆ์ เพื่อรอการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ
โดยชาวบ้านทั้ง 3 กลุ่มกว่า 50 ครัวเรือนที่ยังปักหลักอยู่อ้างว่าไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเป็นของตัวเอง พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ยังย้ำให้ชาวบ้านกลุ่มที่ถูกผลักดันออกห้ามเข้าไปบุกรุกจับจองพื้นที่ป่าดงใหญ่ซ้ำอีก หากใครฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการคัดกรองผู้ไม่มีที่ทำกินจริง เพื่อเข้ารับความช่วยเหลือในเขตพื้นที่ อ.โนนดินแดงกว่า 30 ราย และนอกพื้นที่อีกกว่า 60 ราย รวมกว่า 90 ราย จากผู้บุกรุกทั้งหมดกว่า 300 ครัวเรือน จำนวนกว่า 1,000 คน
ขณะที่ชาวบ้านได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือจัดหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ชาวบ้านที่ผ่านการคัดกรองตามที่รับปากไว้ด้วย
พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านที่ยังปักหลักพักคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลกว่า 50 ครัวเรือน ทางภาครัฐก็ได้มีการคัดกรองพิสูจน์สิทธิตามขั้นตอนแล้ว ขณะนี้รอการพิจารณาให้ความช่วยเหลือจากทางรัฐบาล แต่ก็ได้มีการเน้นย้ำไม่ให้ราษฎรกลุ่มดังกล่าวเข้าไปบุกรุกป่าดงใหญ่ซ้ำอีก ให้รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลตามสิทธิและความเหมาะสมต่อไป