พิษณุโลก - แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมผู้ว่าฯ ผอ.สำนักอนุรักษ์ที่ 11 ผู้การตำรวจ สนธิกำลังทหาร เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เกือบ 1 พันนาย ลุยตัดสวนยางนายทุนสมุทรปราการรุกอุทยานทุ่งแสลงหลวงร่วมร้อยไร่ เล็งเป้าต่อไปโค่นทิ้งอีก 1,900 ไร่
วันนี้ (3 มิ.ย.) พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายอมร ต่อเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 ร่วมเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า ณ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หมู่ 4 ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
ซึ่งที่สวนยางดังกล่าวมีการติดป้ายแสดงรายละเอียดหนังสือจากอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงติดอยู่กลางแปลง ระบุว่าให้รื้อถอนอาคาร โรงจอดรถ และขนย้ายต้นยางพารา กฤษณา ต้นมะปราง ภายใน 31 พ.ค. 58 หากพ้นกำหนดเจ้าพนักงานจะรื้อถอนด้วยตนเอง และเสียค่าใช้จ่าย 60,100 บาท ค่าใช้จ่ายที่ทำให้ที่ดินของรัฐเสียหาย เป็นส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่ผู้บุกรุกครอบครอง (นายเทียบ) ได้เสียชีวิตไปแล้ว ไม่สามารถดำเนินการเรียกเก็บค่ารื้อถอนได้
พล.ท.สาธิตกล่าวว่า จะสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายทวงคืนผืนป่า และพร้อมจะดำเนินการใน 17 จังหวัดภาคเหนือไปพร้อมกัน โดยวันนี้มีการสนธิกำลังทหาร 300 นาย กับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ อีก 600 นาย ตัดทำลายต้นยางพาราที่นายทุนบุกรุกปลูกในพื้นที่ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และคดีสิ้นสุดแล้ว
นายอมรเปิดเผยว่า การโค่นยางพาราวันนี้ 97-2-72 ไร่ เป็นของนายเทียบ ฤกษ์ดี นายทุนชาวสมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดเนื่องจากบุกรุกพื้นที่ป่า ต่อมามีการยื่นร้องต่อศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก แต่ศาลได้ยกคำร้องเมื่อ 25 ก.ย. 52 ถือว่าคดีได้สิ้นสุดแล้ว อีกทั้งผู้ครอบครองได้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ใช้วิธีการตัดฟัน คือ ตัดออก 3 แถว เว้นไว้ 2 แถว
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บุกรุกในเขตอุทยานฯ อีก 1,900 ไร่ จากพื้นที่ที่ถูกรุกทั้งหมด 57,000 ไร่ ที่จะต้องตัดโค่นต่อไป