จันทบุรี - ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองตั้งด่านตรวจเข้มปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม ตอบสนองนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พบกัญชา ผู้เสพยาบ้า และยาไอซ์ได้ จำนวน 6 คน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้( 31 พ.ค.) ตั้งแต่เวลา 21.00 น. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้มีนโยบายที่ต้องการให้จังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดสีขาวปลอดยาเสพติด และได้มีคำสั่งให้ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องท้องถิ่น และท้องที่ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการออกตั้งด่านตรวจเข้มในจุดล่อแหลมทั่งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ในการตรวจเข้มในเรื่องของยาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมอย่างเข้มข้น และจุด 3 แยกบ้านเสม็ดงาม หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะขวาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทางทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการตั้งด่านตรวจเข้มต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านไปผ่านมา
โดยได้มีการตรวจค้นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์อย่างละเอียดทุกคัน พร้อมกับนำผู้ขับขี่มาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด พบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บย 5453 จันทบุรี ขับผ่านด่านตรวจมา และมีท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอเรียกตรวจค้น และเมื่อตรวจค้นก็พบกัญชาแห้งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ ทราบชื่อคือ นายกิตตน์ บรรจงศิลป์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/3 ถนนอัมพวา ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมวัยรุ่นที่เป็นเยาวชนได้อีก 5 คน หลังขี่รถจักรยานยนต์ผ่านด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจปัสสาวะก็พบว่า วัยรุ่นทั้ง 5 คน มีปัสสาวะสีม่วง ซึ่งวัยรุ่นทั้ง 5 คน ให้การยอมรับว่า มีการเสพยาบ้า และยาไอซ์มาจริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปส่งให้แก่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการตั้งด่านตรวจเป็นนโยบายที่ทางจังหวัดต้องการปราบปราม และต้องการให้จังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดสีขาวปลอดจากยาเสพติด การตั้งด่านตรวจครั้งนี้นอกจากจะเป็นการป้องปราบเรื่องของยาเสพติดแล้ว ยังป้องกันในเรื่องของปัญหาอาชญากรรม เด็กซิ่ง และปราบปรามอาวุธผิดกฎหมายด้วย ซึ่งการตั้งด่านตรวจครั้งนี้จะมีการตั้งกันทุกคืน โดยจะหมุนเวียนการตั้งด่านตรวจเข้มไปทั้ง 10 อำเภอ และจะทำอย่างต่อเนื่องทุกวันอีกด้วย
การตั้งด่านตรวจในครั้งนี้ก็ยังพบชาวบ้านยังคงทำผิดกฎหมายการจราจร โดยเฉพาะการไม่สวมหมวกนิรภัย และการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และรถแต่งซิ่งอยู่ ซึ่งในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือน และปล่อยตัวไป หากพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำอีกทางจังหวัดก็คงจะว่าไปตามกฎหมายต่อไปอีกด้วย