รวบหนุ่มใหญ่คาด่าน หลังพบพิรุธขณะจะนำวีโก้ข้ามไปลาว

หนองคาย - ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย รวบชายวัย 30 ปีขณะยื่นเอกสารรถวีโก้ข้ามไปลาว ตรวจรถพบพิรุธเลขตัวถังถูกปกปิด ไม่ตรงกับสมุดคู่มือรถ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันนี้(28 พ.ค.) ที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)จังหวัดหนองคาย พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ตม.ภ.4, นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายณัฐนิษฐ์ สนิทจันทร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 5 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และข้อหาพยายามนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรโดยสำแดงข้อมูลอันเป็นเท็จ พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ รุ่นพรีรันเนอร์ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน ฆด 5349 กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ด.ต.วุฒิชัย สุรีย์ศรีสกาว เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำจุดตรวจด่านพรมแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย ปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ที่ตู้ 5 D พบนายณัฐนิษฐ์ สนิทจันทร์ ได้ขับรถกระบะคันดังกล่าว นำเอกสารรถยนต์ขอยื่นนำรถออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่พบความผิดปกติ

เนื่องจากในสมุดคู่มือมีร่องรอยการลบด้วยปากกาลบคำผิด ที่บริเวณซุ้มล้อด้านหลังข้างขวา ตรวจสอบหมายเลขตัวรถ พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีเลขตัวรถ MR0EZ39G508030143 ซึ่งมีการทำเคลือบสีดำทับไว้เพื่อปกปิด เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่าทะเบียนรถเป็นหมายเลขทะเบียน กง 5901 สระแก้ว ระบุชื่อผู้ครอบครองนายณรงค์ พาเที่ยง

เมื่อตรวจหมายเลขตัวรถบริเวณซุ้มล้อด้านหน้าขวามือ พบหมายเลขตัวรถ MR0EZ39G908020098 ซึ่งตรงตามข้อมูลในสมุดคู่มือรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเชื่อว่าผู้ต้องหามีการทำปลอมขึ้นซึ่งหมายเลขตัวรถชุดใดชุดหนึ่ง หรือมีการปลอมสมุดคู่มือทะเบียนรถ เนื่องจากพบลำดับของเจ้าของรถเป็นลำดับที่ 1 เพียงหมายเลขเดียวทั้งเล่ม

ด้านนายณัฐนิษฐ์ สนิทจันทร์ เจ้าของรถ บอกกับเจ้าหน้าที่ ว่ารถคันนี้ตนซื้อมาจากจังหวัดลพบุรี ราคา 550,000 บาท ซึ่งมีการโอนทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมาย และตนยืนยันว่ารถคันนี้ไม่ได้มีการปลอมแปลงเอกสารใดๆ

ขณะที่นายสมหวัง ทองขาว ขนส่งจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบสมุดคู่มือประจำรถ ตามความเป็นจริงแล้ว ลำดับผู้ครอบครองต้องมีการเรียงลำดับกันไป และหมายเลขตัวถังรถนั้นจะต้องมีที่เดียว คือบริเวณล้อหลังด้านขวา จึงเชื่อได้ว่าน่าจะปลอมแปลงเอกสารทางราชการ อย่างไรก็ตามตนขอตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม และข้อหาพยายามนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักรโดยสำแดงข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีต่อไป