สระแก้ว - คณะสงฆ์ร่วมกับจังหวัดสระแก้ว และสถานศึกษา ลงนาม MOU สอนธรรมะในสถานศึกษา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ห่างไกลจากอบายมุข สิ่งเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่วัดสระแก้ว พระอารมหลวง จังหวัดสระแก้ว ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในการดำเนินโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและการเรียนธรรมศึกษาในสถานศึกษาจังหวัดสระแก้ว ระหว่างส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสระแก้ว จำนวน 11 แห่ง ร่วมพิธีลงนาม
ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สนง.การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 สำนักงานคณะกรรมการอาวชีวศึกษาสระแก้ว เรือนจำจังหวัดสระแก้ว องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสระแก้ว
ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้เห็นชอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ทำหน้าที่กรรมการ และเลขานุการคณะกรรมการดำเนินงานจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาในระดับจังหวัด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ห่างไกลจากอบายมุข สิ่งเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย มีความรู่คู่คุณธรรม เป็นพลเมืองดี และมีคุณภาพ
โดยความร่วมมือฉบับนี้ทำขึ้นระหว่างคณะสงฆ์จังหวัดสระแก้ว และฆราวาสในจังหวัดสระแก้วที่จะร่วมดำเนินงานการเรียนการสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้บริหารในสังกัดจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาในสถานศึกษา
โดยให้มีแผนการเรียนการสอน การสอบ ที่สำนักงานแม่กลองธรรมสนามหลวง กำหนดทุกปีการศึกษา จัดทำแผนการเรียนให้ครูพระสอนศีลธรรม ครูพระสอนธรรมศึกษา และพระสงฆ์ ฆราวาสที่มีความรู้ด้านพระพุทธศาสนาได้นำเข้าไปดำเนินการสอน
โดยมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบงานธรรมศึกษาคณะทำงาน และกองอำนวยความสะดวกในการ ในการเดินทาง และห้องปฏิบัติงาน จัดทำยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ มาตรการในพื้นที่เพื่อจัดทำคำของบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา และการเรียนการสอนธรรมศึกษาในพื้นที่ เสนอสำนักงานส่งเสริมกิจการการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตามวงรอบของปีงบประมาณ ดำเนินการกระบวนการด้านวิชาการ ให้มีทรัพยากรด้านบุคลากรทั้งฝ่ายคณะสงฆ์ และฝ่ายฆราวาสในการจัดแผนการเรียน การสอนการติดตามประเมิน สรุปรายงาน เพื่อการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน และความมั่นคงในสถานศึกษา และส่งเสริมและสนับสนุนในด้านอาคารสถานที่อุปกรณ์การเรียนการสอน และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นายภัครธรณ์ กล่าวต่อว่า ขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของธรรมศึกษา เพราะจะเป็นการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ ตลอดจนส่งเสริมให้เป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม ยึดมั่นตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นค่านิยมหลัก 12 ประการ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ จึงได้ลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ และเข้าใจหลักพุทธธรรมที่ถูกต้อง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อันมีผลต่อการส่งเสริมค่านิยมหลักในเรื่องความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ภูมิใจในความเป็นไทย ให้ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรม มีความเป็นพลเมืองดี สามารถทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
ตลอดจนพัฒนาตนเองไปในทางที่ถูกต้อง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้เรียนห่างไกลอบายมุข สิ่งเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยของสังคม พร้อมทั้งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ เล็งเห็นความสำคัญ และร่วมกันพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนธรรมศึกษาแก่เด็ก และเยาวชน ตลอดจนมีการสอบที่เป็นมาตรฐาน จบแล้วได้รับใบประกาศนียบัตร ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตร และพัฒนาผู้เรียนอีกรูปแบบหนึ่ง