ฉะเชิงเทรา - ผอ.รพ.พุทธโสธร เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมแจงคนไข้ตกตึกดับไม่พบอาการผิดปกติ หรือสิ่งบอกเหตุมาก่อนหน้านี้ ด้านญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย เตรียมเคลื่อนศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
วันนี้ (21 พ.ค.) นพ.วีระศักดิ์ อนุตรอังกูร ผอ.รพ.พุทธโสธร (เมืองฉะเชิงเทรา) กล่าวถึงเหตุการณ์กรณีมีคนไข้ตกตึกอายุรกรรมชาย 10 ชั้น ลงมาเสียชีวิตเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาว่า คนไข้รายนี้ได้เข้ามาทำการรักษาตัวด้วยอาการไอเป็นเลือด และเหนื่อย เมื่อวันที่ 19 พ.ค.58 ที่ผ่านมา โดยแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอักเสบ หลังทำการรักษาด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ และน้ำเกลือ อาการจึงดีขึ้นตามลำดับในทุกวัน โดยมีญาติผู้เป็นน้องชายมาเฝ้าไข้อยู่ด้วย และไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร
มาในวันนี้คนไข้ได้หายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.เศษ จากนั้นจึงได้มีการตามหาตัวว่าคนไข้หายไปไหน จนมาพบว่า คนไข้ได้ลงมานอนกองอยู่ที่พื้นในสนามหญ้าข้างๆ ตึกแล้ว จึงสงสัยว่าน่าจะกระโดดตึกลงมาหรือไม่ หลังจากทีมแพทย์ และพยาบาลเข้าไปดูจึงพบว่าได้เสียชีวิตแล้วในจุดเกิดเหตุ เมื่อทางแพทย์นิติเวชได้เข้าไปตรวจสอบจึงพบว่าสาเหตุของการเสียชีวิตมาจากปอดฉีก มีเลือดออกในปอดรุนแรง จึงได้ส่งศพไปยังห้องดับจิต
จากการที่คนไข้ได้เข้ามาอยู่กับทางโรงพยาบาลเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมานั้น ก็ไม่ได้พบว่ามีอาการผิดปกติอะไรที่ต้องเฝ้าระวัง โดยปกติในระบบของทางโรงพยาบาลหากพบว่าคนไข้ที่มีอาการสุ่มเสี่ยงว่าจะมีปัญหาเรื่องทางจิต หรือมีอาการซึมเศร้า มีความเครียดก็จะให้ญาติดูแลอย่างใกล้ชิดทุกราย และต้องประเมินเรื่องความเครียดทุกราย หากพบรายใดไม่น่าไว้วางใจก็จะจัดโซนให้มาอยู่ใกล้ๆ กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อจะดูแลได้อย่างใกล้ชิด แต่คนไข้รายนี้ก็ไม่ได้แสดงอาการเหล่านั้นมาก่อน ส่วนอาการป่วยนั้นก็ดีขึ้นในทุกๆ วันที่จะสามารถหายกลับมาเป็นปกติได้
ขณะนี้จึงยังไม่รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตึกผู้ป่วยก็มีลูกกรงป้องกันการปีนป่าย หรือเล็ดลอดออกมาได้อยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลเองก็แปลกใจเช่นเดียวกันว่าคนไข้นั้นตกลงมาจากทางไหน จึงสันนิษฐานได้ว่า มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่คนไข้จะสามารถหนีออกไปได้คือ ทางหนีไฟเพื่อขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าแล้วกระโดดลงมา ขณะที่สาเหตุก็ไม่น่าจะใช่จากอาการของโรคที่ป่วย เพราะทั้ง 2 โรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่นั้นก็สามารถรักษาให้หายได้
“หลังจากทีมแพทย์ และพยาบาลได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจต่อทางญาติแล้ว ทางญาติก็เข้าใจ และไม่ได้ติดใจถึงสาเหตุของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น และได้เตรียมเคลื่อนย้ายนำศพไปบำเพ็ญกุศลยังที่วัดเสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ตามประเพณีต่อไป” นพ.วีระศักดิ์ กล่าว