ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ ยื่นหนังสือสนับสนุนนโยบายเข้มงวดกวดขันสถานบันเทิง และร้านจำหน่ายสุรา เผยผลสุ่มสำรวจพบร้านเหล้าจำนวนมากลอบเปิดบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จี้เร่งตรวจสอบ และลงโทษตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ขณะที่เครือข่ายจักรยานเชียงใหม่ เตรียมจัดโครงการรวมใจปั่นรณรงค์ “เมา+ขับ=จับ+ขัง”
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พระ ดร.สมุห์วิเชียร คุณธมฺโม ประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายกฤษดา กำแพงแก้ว เครือข่ายจักรยานเชียงใหม่ และกลุ่มผู้ใช้จักรยานเชียงใหม่ ร่วมกันยื่นหนังสือให้กำลังใจสนับสนุนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการดำเนินการนโยบายเข้มงวดกวดขันสถานบันเทิง และร้านจำหน่ายสุรา
หลังจากที่เกิดกรณีอุบัติเหตุนักศึกษาสาวอายุ 24 ปี เมาสุราแล้วขับรถยนต์ชนกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บสาหัส 2 คน เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 พ.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า ก่อนเกิดเหตุนักศึกษาสาวคนดังกล่าวได้ดื่มสุราในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เปิดให้บริการจนถึงเช้า
พร้อมทั้งส่งมอบรายงานผลการเฝ้าระวังภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และข้อเสนอแนะในการดำเนินนโยบายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายนาวิน สินธุสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับหนังสือแทน
ประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากกรณีความสูญเสียที่เกิดขึ้นมีสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งมาจากสถานบันเทิง และร้านจำหน่ายสุราที่ไม่ปิดตรงตามเวลาและไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทางเครือข่ายสนับสนุนการดำเนินนโยบายเข้มงวดกวดขันสถานบันเทิง และร้านจำหน่ายสุราของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ขณะที่ในช่วงผ่านมา หลังเกิดเหตุทางเครือข่ายได้ทำการสุ่มสำรวจสถานบันเทิง และร้านจำหน่ายสุรา 21 ร้าน ในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่ามี 11 ร้าน ที่ไม่เปิดให้บริการ และ 10 ร้าน ที่ปิดไฟหน้าร้าน และในร้าน แต่ยังคงเปิดให้บริการลูกค้าอยู่ภายในร้าน ซึ่งทางเครือข่ายมีความเป็นห่วงว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นได้อีก เบื้องต้น จึงมอบข้อมูลดังกล่าวให้แก่ทางจังหวัดเชียงใหม่เพื่อตรวจสอบ
ขณะที่ในส่วนของการดำเนินนโยบายเข้มงวดกวดขันสถานบันเทิง และร้านจำหน่ายสุรานั้น ทางเครือข่ายมีข้อเสนอให้มีการควบคุมให้สถานบันเทิง และสถานประกอบการทั้งร้านอาหาร คาราโอเกะ ที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนด และต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด ห้ามจำหน่ายให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมทั้งการดำเนินกิจการเหล่านั้นจะต้องไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชน และบ้านเรือนใกล้เคียงด้วย
ทั้งนี้ การลงโทษสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนควรจะต้องรวดเร็ว และเด็ดขาดด้วยการใช้โทษสูงสุดด้วย นอกจากนี้ ขอให้มีการประสานสรรพสามิต ในการเพิกถอนใบอนุญาตจำหน่ายสุราในร้านที่ฝ่าฝืน รวมทั้งตรวจสอบการชำระภาษีด้วย
ด้าน นายกฤษดา เปิดเผยว่า จากกรณีความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้จักรยานเชียงใหม่ ทางเครือข่ายจักรยานเพื่อสุขภาพอำเภอสันทราย ร่วมกับเครือข่ายชมรมจักรยาน และกลุ่มผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ โดยการสนับสนุนของกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ และมูลนิธิเมาไม่ขับ จัดโครงการรวมใจปั่นรณรงค์ “เมา+ขับ=จับ+ขัง”
โดยที่นักปั่นจักรยานเชียงใหม่ นำโดยเครือข่ายจักรยานเพื่อสุขภาพอำเภอสันทราย ประมาณ 20 คน จะร่วมกันขี่จักรยานออกจากจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 3 มิ.ย.58 มีจุดเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ผ่านจังหวัดต่างๆ ไปถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 8 มิ.ย.58 แล้วรวมตัวกับนักปั่นจากทั่วประเทศเพื่อเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 มิ.ย.58 เพื่อเรียกร้องให้มีการนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ลงโทษผู้เมาแล้วขับด้วยการจับดำเนินคดี และลงโทษจำคุกทันที เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าการรณรงค์ครั้งนี้จะเกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
