ศรีสะเกษ - บั้งไฟแสนโบราณตกใส่ชาวบ้านกันทรารมย์ ศรีสะเกษ ดับสยอง 2 ศพ สาหัส 1 ราย นายอำเภอประกาศห้ามสั่งจุดบั้งไฟทันที พร้อมทั้งให้กรรมการจัดงานให้ความช่วยเหลือดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ ด้าน ตร.สอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีตาม กม.
วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ บุญทรง พนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเกิดเหตุบั้งไฟตกใส่ชาวบ้าน ที่ฐานจุดบั้งไฟบ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ห่างจากฐานจุดบั้งไฟประมาณ 50 เมตร พบผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย คือ นายสุคิด พงษ์อ่อน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 6 บ้านโพธิ์ลังกา ต.ยาง อ.กันทรารมย์ สภาพศพถูกบั้งไฟตกใส่แขนข้างซ้ายขาด และตาข้างขวาหลุดหายจากเบ้า และศพของนายสุนทร พันธุ์วิไล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 7 บ้านหนองทามน้อย ต.คำเนียม อ.กันทรารมย์ ถูกหางบั้งไฟตกใส่บริเวณศีรษะกะโหลกแตก
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายบัณฑิต จันทปัญญา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 8 ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ถูกบั้งไฟตกใส่แขนข้างซ้ายขาด แพทย์โรงพยาบาลกันทรารมย์ได้ส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และ นายทองสวย สิมณี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 9 ต.คำเนียม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บตามลำตัวเล็กน้อย แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายบุญเริ่ม พงษ์อ่อน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/3 บ้านดูน ต.ดูน อ.กันทรารมย์ น้องชายของนายสุคิด พงษ์อ่อน ผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนนั่งดูบั้งไฟกันอยู่ โดยบั้งไฟที่จุดบั้งสุดท้ายเป็นบั้งไฟแสนแบบโบราณ เนื่องจากใช้ลำไม้ไผ่แทนท่อเอสลอน เป็นการทำบั้งไฟแบบโบราณ ซึ่งเมื่อบั้งไฟแสนจุดขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว ปรากฏว่าขณะที่บั้งไฟตกลงมาได้หมุนตีลังกาและพุ่งตกลงมาอย่างรวดเร็วมาก และตกลงมาใส่กลุ่มพี่ชายของตนที่นั่งอยู่กับเพื่อนที่มาด้วยกัน ทำให้พี่ชายของตนถูกบั้งไฟตกใส่แขนข้างซ้ายขาด และศีรษะแตก จนทำให้ดวงตาข้างซ้ายกระเด็นหายไป เสียชีวิตคาที่ ซึ่งทำให้ตนเสียใจมากไม่คิดว่าพี่ชายจะเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝันเช่นนี้
ต่อมา นายนพ พงศ์ผลาดิศัย นายอำเภอกันทรารมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิวัฒน์ ไมตรีแพน ผกก.สส.ภ.จ.ศรีสะเกษ นายสุริยา บุตรจินดา ป้องกัน จ.ศรีสะเกษ และคณะ ได้มาตรวจสอบที่โรงพยาบาลกันทรารมย์เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ญาติผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งได้อำนวยความสะดวกแก่ญาติพี่น้องในการนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
นายนพ พงศ์ผลาดิศัย นายอำเภอกันทรารมย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้รายงานให้ นายยุทธนา วิริยะกิตติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับทราบแล้ว ซึ่งการจัดประเพณีบุญบั้งไฟนี้ กรรมการหมู่บ้านโพธิ์ลังกาได้รับอนุญาตให้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟโบราณขึ้นจำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 17-18 พ.ค. แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตตนจึงได้สั่งการให้งดการจุดบั้งไฟในวันที่เหลืออีก 1 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดขึ้นมาอีก
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษมีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้ตนกำชับให้กรรมการจัดงานบุญบั้งไฟโบราณนี้ให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ ตนขอฝากเตือนประชาชนชาว อ.กันทรารมย์ ที่ไปชมและจุดบั้งไฟว่า บั้งไฟก็เหมือนกับระเบิด ซึ่งเมื่อขึ้นบนท้องฟ้าแล้วไม่สามารถจะบังคับทิศทางได้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนระมัดระวังรักษาตัวเองจากอันตรายที่อาจจะเกิดจากบั้งไฟได้
พ.ต.อ.ศิวัฒน์ ไมตรีแพน ผกก.สส.ภ.จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าการจุดบั้งไฟครั้งนี้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องทำการสอบสวนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่ และจะได้สอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และทราบว่าการจุดบั้งไฟครั้งนี้มีการทำประกันภัยไว้ด้วย ซึ่งจะได้เร่งรัดให้กรรมการจัดงานได้ประสานงานกับบริษัทประกันภัยเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเร่งด่วน