กาญจนบุรี - นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ ปลัดอำเภอห้วยกระเจา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (17 พ.ค.) นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสมพร กุญชรชัย ปลัดอำเภอห้วยกระเจา นายสมยง ป้อมเพ็ชร ประธานสภาเทศบาลตำบลสระลงเรือ พร้อมคณะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ โครงการที่ 1 จาก 3 โครงการ ที่บริเวณด้านหลังสวนสมุนไพรหมอเณร หมู่ 10 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี โดยมี นายทินกร จำปาสัก เจ้าหน้าที่ชลประทานกาญจนบุรี สำนักชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง ให้การต้อนรับ
นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นถวายฎีกาโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างโดยสำนักชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง
สำหรับสถานที่ก่อสร้างสถานีสูบน้ำโครงการที่ 1 มีเนื้อที่ทั้งหมด 3 ไร่ ซื้อมาในราคา 9 แสนบาท ซึ่งสำนักชลประทาน ได้มอบเงินช่วยเหลือในการซื้อที่ จำนวน 3 แสนบาท
ส่วนที่เหลือ จำนวน 6 แสนบาท ตนพร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาลตำบลสระลงเรือ รวมทั้งพนักงานข้าราชการ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้งตำบลได้ช่วยกันสละเงินเดือนคนละ 1 เดือน จนได้ครบจำนวน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทราบว่า ขณะนี้ก่อสร้างได้แล้วประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์
สำหรับที่ดินที่ใช้สำหรับการวางท่อส่งน้ำตั้งแต่หลังสวนสมุนไพรหมอเณร เคลื่อนผ่านหมู่ที่ 8 หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 13 หมู่ที่ 7 ผ่านสี่แยกไผ่สี เลี้ยวขวาตัดข้ามถนนลาดยางหน้าโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม ซึ่งเป็นโครงการที่ 1 จาก 3 โครงการ ชาวบ้านได้มอบที่ดินให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
“ขณะนี้การดำเนินการคืบหน้าไปมากแล้ว ผมพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร รวมทั้งชาวตำบลสระลงเรือทั้ง 17 หมู่บ้าน มีความปลื้มปีติเป็นอย่างมากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับโครงการส่งน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ ทั้ง 3 โครงการ ที่ตนยื่นถวายฎีกาไว้เป็นโครงการในพระราชดำริของพระองค์ เราชาวตำบลสระลงเรือ ทราบว่าพระองค์ท่านทรงประชวรอยู่ จึงขอบุญกุศลที่ราษฎรได้รับโครงการพระราชดำริในครั้งนี้ได้ดลบันดาลให้พระองค์ท่านมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน” นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ กล่าว
ด้าน นายสมยง ป้อมเพ็ชร ประธานสภาเทศบาลตำบลสระลงเรือ กล่าวว่า ตำบลสระลงเรือ ถือว่าเป็นตำบลที่มีความแห้งแล้งที่สุดตำบลหนึ่งของอำเภอห้วยกระเจา ราษฎรส่วนใหญ่มีอาชีพทำไร่ทำนา การทำนาทำได้เพียงปีละ 1 ครั้ง คือ นาปี ส่วนนาปรังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องรอให้ฝนตกเพียงอย่างเดียว ซึ่งหากโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ แล้วเสร็จ เชื่อว่า ชาวตำบลสระลงเรือทั้ง 17 หมู่บ้าน จะมีความอยู่ดีกินดี ผลผลิตด้านการเกษตรก็จะเพิ่มขึ้น เมื่อถึงหน้าแล้ง บุตรหลานก็จะไม่หนีเข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดอย่างแน่นอน
ส่วน นายสมพร กุญชรชัย ปลัดอำเภอห้วยกระเจา กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนอำเภอห้วยกระเจา มีความรู้สึกปลื้มปีติแทนราษฎรชาวตำบลสระลงเรือเป็นอย่างมาก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำทั้ง 3 แห่ง ให้แก่ราษฎรครอบคลุมพื้นที่ตำบลสระลงเรือทั้ง 17 หมู่บ้าน เชื่อว่าหากโครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จราษฎรจะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด
ด้าน นายทุเรียน วารีรัตน์ อายุ 56 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 และนายสนั่น เชื้อหนองปรง อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.สระลงเรือ ทั้งสองมีอาชีพทำนา กล่าวด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำว่า ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ก็พบว่า หมู่บ้านของเรามีแต่ความแห้งแล้ง ผลผลิตจากการทำนา และพืชไร่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร บางปีต้องขาดทุนจากการทำไร่นา เพราะฝนตกไม่ตรงตามฤดูกาล เมื่อถึงฤดูแล้งก็แล้งจัด ทำให้ไม่มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค ต้องได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐนำน้ำมาแจกจ่ายให้แก่ราษฎรเท่านั้น ทำให้ทุกครัวเรือนต้องได้รับความเดือดร้อนเช่นนี้ทุกปี
แต่หลังจากที่ นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระลงเรือ ได้ยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับโครงการดังกล่าวไว้เป็นโครงการในพระราชดำริ และขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พวกตนในฐานะราษฎรที่มีอาชีพทำไร่ทำนา จึงมีความรู้สึกปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ขอให้พระองค์หายจากอาการประชวรโดยเร็ว และให้อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป
