ศูนย์ข่าวศรีราชา - อุทาหรณ์ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์ก ดีเจวิทยุชุมชนฉายา"แจ๊สแต้มสี" โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาโรงน้ำแข็ง KO สัตหีบทำคนท้องเสีย ธุรกิจเสียหายกว่า 5 ล้านบาท เจ้าของแจ้งความหมิ่นประมาท สุดท้ายต้องไกล่เกลี่ยมยอมความจ่าย 7 หมื่น
วันนี้( 14 พ.ค.)ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยคดี สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ร.ต.อ.หญิง กาญจนภัสส์ ปฐวีศรีสุด พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวนางอังคณา แสงเพชร อายุ 48 ปี ผู้จัดการ โรงน้ำแข็ง KO สัตหีบ ในฐานะฝ่ายโจทก์ พร้อมด้วยนางสุรัสวดี ประสานนิล อายุ 54 ปี ดีเจวิทยุชุมชน ฉายา แจ๊สแต้มสี ในฐานะคู่กรณี ในคดีหมิ่นประมาท โดยมีการโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ โจมตีโรงน้ำแข็ง KO สัตหีบ กล่าวหาเป็นต้นเหตุทำให้ประชาชนจำนวนมากบริโภคน้ำแข็งจนท้องเสีย ซึ่งฝ่ายโจทก์ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สัตหีบ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.57
สืบเนื่องจากในขณะนั้นมีประชาชนในพื้นที่ทุกเพศทุกวัยกว่า 100 คน ได้เกิดอาการท้องเสียอย่างไม่ทราบสาเหตุ และเมื่อวันที่ 4 ก.ย.57 “แจ๊สแต้มสี” ได้ทำการโพสต์ข้อความโจมตีโรงน้ำแข็ง KO สัตหีบ ลงเฟซบุ๊กชื่อ Jass Suratsavadee ความว่า
“ทำได้ไง ในพื้นที่สัตหีบ ประชาชน นักเรียน เกิดการติดเชื้อในน้ำแข็งที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน ทำให้ติดเชื้ออย่างรุนแรงหลายคน ไม่นึกถึงผู้ผลิตจะเห็นแก่ตัว นำน้ำจากบ่อขังสกปรกมาผลิตน้ำแข็ง ทำอะไรไว้กรรมคงเห็นในชาตินี้”
โดยมีการคอมเมนต์ว่า “สาเหตุเกิดจากร้านน้ำแข็ง ko ตรงตลาดเช้า นำน้ำที่ขังไม่กรองนำมาผลิตน้ำแข็งเลย แรงงานก็เขมร พม่า เด็กนักเรียนติดเชื้อส่ง รพ. ร้อยกว่าคน” และยังกล่าวอีกว่า “ที่ร้านรับน้ำแข็งจาก ko เวลาเช็คโดนโกงตลอด เลยงดรับน้ำแข็ง”
นางอังคณา แสงเพชร ผู้จัดการโรงงานน้ำแข็ง KO เปิดเผยว่า หลังข้อความได้ถูกตีแผ่ออกไป มีผู้คนเข้ามาให้ความสนใจ และวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่เสื่อมเสีย ส่งผลให้โรงน้ำแข็ง KO สัตหีบถูกยกเลิกการสั่งซื้อน้ำแข็งจากบริษัทหลายแห่ง ขาดทุนกว่า 5 ล้านบาท ตลอดจนผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ส่งผลกระทบต่อการค้าโดยตรง นางวารี อมรศักดิ์ชัย อายุ อายุ 49 ปี เจ้าของโรงน้ำแข็ง KO สัตหีบ 0จึงมอบหมายให้ตนเป็นผู้ดำเนินการยื่นฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท เพื่อเอาผิดกับผู้โพสต์ข้อความ เพื่อเป็นอุทาหรณ์กับคนในโลกโซเชียล ให้ระมัดระวังการโพสต์ข้อความต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ หรือผู้อื่น ให้ได้รับความเสียหายเดือดร้อน
ด้าน ร.ต.อ.หญิง กาญจนภัสส์ ปฐวีศรีสุด เจ้าของคดี กล่าวว่า ในคดีนี้ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย เพื่อยุติปัญหา โดยทางโรงน้ำแข็ง KO สัตหีบ เห็นว่าฝ่ายคู่กรณีเป็นคนที่สนิทมักคุ้นในทางสังคม จึงพร้อมยอมความให้ฝ่ายคู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายต่อธุรกิจเป็นเงินสด 1 แสนบาท แต่ทางฝ่ายคู่กรณีขอต่อรองเป็นเงิน 7 หมื่นบาท โดยมีกำหนดชดใช้ในงวดแรก 50,000 บาท ก่อนสิ้นเดือน มิ.ย. และอีก 20,000 บาท ก่อนสิ้นเดือน ก.ค. จึงจะถือเป็นอันยอมความ