ศูนย์ข่าวขอนแก่น - โผล่อีก! มิจฉาชีพแอบอ้างศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ออกเร่ขายบัตรมวยการกุศลให้ประชาชน ภาคเอกชน และหัวหน้าส่วนราชการ ล่าสุดอ้างชมรมกีฬายิงปืนศูนย์ฝึกหารายได้ปรับปรุงสนามยิงปืน
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ภัทราวุธ เอื้อมศศิธร ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 4 (ผบก.ศฝร.ภ.4) พร้อมด้วยรองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลทำบัตรชกมวยการกุศลไปจำหน่ายให้หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน และมีผู้หลงเชื่อถูกเรี่ยไรเงินเป็นจำนวนมากและได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองขอนแก่นแล้วหลายราย
พล.ต.ต.ภัทราวุธ เอื้อมศศิธร ผบก.ศฝร.ภ.4 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนหลายรายเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น หลังพบบุคคลต้องสงสัยตระเวนขายบัตรมวยการกุศลผิดปกติ โดยล่าสุดเปลี่ยนชื่อจากศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 อ้างชื่อผู้จัดเป็น “ชมรมกีฬายิงปืน ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4” เพื่อนำรายได้ไปปรับปรุงสนามยิงปืน “คงเพชรศักดิ์” ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 โดยรายละเอียดภายในบัตรลงระบุรายละเอียดของงาน เป็นกิจกรรมศึกมวยเมืองหมอแคนดอกคูน ปะทะ พยัคฆ์เมืองล้านนา ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ที่สนามกีฬาจังหวัดขอนแก่น อาคารโรงพลศึกษา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นั้นไม่เป็นความจริง ถ้าหากมีการจัดมวยการกุศลนี้จริงจะต้องผ่าน พล.ต.ต.ภัทราวุธ เอื้อมศศิธร ผบก.ศฝร.ภ.4 เป็นคนเซ็นชื่ออนุมัติเท่านั้น
พล.ต.ต.ภัทราวุธชี้แจงว่า ทางศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ไม่ได้เกี่ยวข้องรู้เห็นกับการจัดกิจกรรมชกมวยครั้งนี้ และไม่มีการดำเนินการในลักษณะการจัดกิจกรรมหารายได้ดังกล่าว อีกทั้งปัจจุบันไม่มีการดำเนินการชมรมกีฬายิงปืนของศูนย์ฯ ตั้งแต่ปี 2556 แล้ว มีเพียงชมรมกีฬายิงปืนภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอยู่จริงเท่านั้น
ดังนั้นการแอบอ้างดังกล่าวได้สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ หากทางศูนย์ฝึกฯ มีความจำเป็นต้องการปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารสถานที่จริงจะใช้เงินงบประมาณเบิกจ่ายจากภาครัฐเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังทราบว่ามีการแอบอ้างจึงมีคำสั่งให้รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในกิจกรรมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า พ.ต.อ.พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ผู้กำกับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในบัตร จึงได้ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้ พ.ต.อ.คณิต ดวงหัสดี รองผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 เป็นประธานและคณะกรรมการสอบให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
หากมีความผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมาย แต่ถ้าผู้จัดมีเจตนาจัดจริงก็ควรจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม หากผู้จัดซึ่งเป็นตำรวจที่เกี่ยวข้องนำเงินส่วนนี้มาให้ทางศูนย์ฝึกก็ไม่ขอรับไว้ เนื่องจากเป็นการหลอกลวงเงินจากประชาชนมาอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ ได้ทำหนังสือประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการสนับสนุนซื้อบัตรชกมวยการกุศลครั้งนี้แจ้งไปยังสถานีตำรวจทุกสถานีในภาค 4 แล้ว ที่สำคัญนโยบายของผู้บัญชาการภาค 4 ไม่ให้มีการจัดกิจกรรมแบบนี้แต่อย่างใด พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชน กรณีที่มีภาคราชการหรือประชาชนบางกลุ่มดำเนินการนำบัตรต่างๆ ไม่ว่าบัตรมวยหรือบัตรการกุศลไปจำหน่าย โดยอ้างเพื่อนำรายได้ไปพัฒนาหรือเพื่อซื้ออุปกรณ์ให้แก่หน่วยงานต่างๆ ให้ตรวจสอบไปยังชื่อผู้ดำเนินการว่ามีจริงหรือไม่
เพราะอาจจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อไปจัดเพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว หรือถ้าหากว่ามีการตรวจสอบแล้วเป็นกิจกรรมที่ถูกต้อง ถ้าอยากช่วยเหลือก็ควรจะช่วยตามสมควร ถ้าถูกบีบบังคับให้ซื้อจำนวนมากๆ ก็ไม่ควรให้การสนับสนุนเพื่อให้ตัวเองเดือดร้อน กรณีครั้งนี้บัตรชกมวยราคาก็ไม่น้อย ขายถึงบัตรละ 1,000-2,000 บาท ประชาชนบางคนเห็นชื่อผู้จัดก็เกรงใจจำใจซื้อทั้งที่ตัวเองเดือดร้อน