กาฬสินธุ์-ปศุสัตว์เมืองน้ำดำ คุมเข้มพื้นที่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้า ล่าสุด ขยายพื้นที่ควบคุมโรคครอบคลุม 24 หมู่บ้าน ในพื้นที่ ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เตือนประชาชนเฝ้าระวังสัตว์พาหนะนำโรค และควรนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
วันนี้ (14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปพบ นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามภายหลังมีประกาศกำหนดเขตโรคระบาดชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นการพบการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในรอบ 7 ปี
พร้อมเตือนให้ประชาชนได้เฝ้าระวังการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ด้วยการนำสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัข และแมว ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าไปยังสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งจะเป็นพาหะนำโรคติดต่อมาสู่คนได้
นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปกติในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี จะเป็นห้วงของการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงมาฉีดวัคซีนที่สำนักงานปศุสัตว์ใกล้บ้าน ทั้งระดับอำเภอ และระดับตำบล ที่จะมีอัตราค่าใช้จ่ายอยู่ที่ตัวละ 20 บาท
ปีที่ผ่านมา พบว่า มีประชาชนนำสัตว์เลี้ยงมารับการฉีดวัคซีนราว 2-3 พันคน แต่ในปีนี้พบว่าในพื้นที่บ้านเหล่าแดง หมู่ 7 ต.ฆ้องชัยพัฒนา อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ มีการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า
โรคระบาดนี้ถือเป็นโรคระบาดร้ายแรง เพราะเชื้อสามารถติดต่อสู่คนได้ และเมื่อติดเชื้อแล้วยังไม่มีทางรักษาได้ มีโอกาสเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมโรคชั่วคราว และขยายพื้นที่ควบคุมโดยรอบในระยะ 3 กม. ทำให้มีพื้นที่ควบคุมโรค 24 หมู่บ้านใน 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.โนนศิลาเลิง ต.ฆ้องชัยพัฒนา และ ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์
พื้นที่ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ควบคุมโรคที่จะต้องมีการควบคุมประชากรสัตว์ด้วยการตอน และทำหมันสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้านในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และจากข้อมูลสัตว์เลี้ยงที่เป็นต้นตอของการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งต่อจากนี้ไปได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอทั้ง 18 แห่ง และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ตำบล ออกทำการสำรวจ และเร่งดำเนินการรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนในสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันการระบาดโรคพิษสุนัขบ้าขยายวงกว้างออกไป
ส่วนประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง และหากพบว่าถูกกัด ถูกข่วน หรือสัมผัสน้ำลายของสัตว์เลี้ยงที่มีอาการผิดปกติต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อดำเนินการรักษาตามขั้นตอน และถ้าพบสัตว์ที่มีอาการผิดปกติ เช่น อาการหงุดหงิด กระวนกระวายพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม น้ำลายมากผิดปกติ กัด หรือข่วนโดยไมมีเหตุการณ์โน้มนำ ถือเป็นสัญญาณอันตรายว่าเป็นสัตว์ที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ทันที
อย่างไรก็ตามทางสำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้เปิดสายด่วนเพื่อตอบข้อสงสัย รวมถึงให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของโรคพิษสุนัขบ้า ที่จะสามารถติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-4381-1535 หรือ 08-9203-5336
