เชียงใหม่ - ตำรวจภูธรภาค 5 ขยายผลตามรวบสองผัวเมียเถ้าแก่ร้านคาราโอเกะหาดใหญ่สุดแสบ ลวงสาวแม่อายวัย 15 ปีบังคับขายบริการให้ชาวต่างชาติเปิดบริสุทธิ์ครั้งละ 3 หมื่นบาท ก่อนบังคับค้ากามต่อ
วันนี้ (14 พ.ค.) พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ได้แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิงผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม แก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี, เป็นธุระจัดหา กระทำการค้าประเวณี และข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัว จะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้น หรือของผู้อื่น ตามหมายจับของศาลฝาง จังหวัดเชียงใหม่
หลังจาก พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภาค 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ติดตามจับกุมนายชยุต กิจทองพูล อายุ 58 ปี และนางจินดารัตน์ แปงอ้าย อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา ได้ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนำตัวมาดำเนินคดีที่เชียงใหม่
การจับกุมผู้ต้องหาสองสามีภรรยารายนี้ มีขึ้นหลังนางอำไพ ชัยชนะ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้ล่อลวงเด็กสาวจาก อ.แม่อาย ไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะของผู้ต้องหาที่ อ.หาดใหญ่ และกักขังบังคับให้ค้าประเวณีแก่ชาวต่างชาติ หรือเปิดบริสุทธิ์ครั้งละ 3 หมื่นบาท ทั้งยังกักขังให้ขายบริการต่อ นอกจากนั้นผู้ต้องหายังล่อลวงหญิงสาวและเด็กสาวอีกหลายคนไปทำงานโดยให้ผลตอบแทนสูง แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี
ต่อมาผู้เสียหายหนีออกมาได้ และแจ้งความตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมนางอำไพ ซึ่งเป็นนายหน้าที่ล่อลวงเด็กสาวไปค้าประเวณีเมื่อปี 2554 จนกระทั่งศาลฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตัดสินจำคุกนางอำไพเป็นเวลา 8 ปี และในชั้นสอบสวนนางอำไพให้การซัดทอดผู้ต้องหาทั้งสองคน (นายชยุต-นางจินดารัตน์) เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐาน เสนอศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังเร่งติดตามนายตี ไม่ทราบนามสกุล ที่เชื่อว่าร่วมขบวนการค้ามนุษย์กับผู้ต้องหา และยังอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 1 คนด้วย