มหาสารคาม - หลังคาโรงจอดรถห้างโกลบอลเฮ้าส์ สาขามหาสารคาม ถูกพายุพัดลงมาทับรถลูกค้าเสียหายกว่า 30 คัน โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต แต่บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ผู้ว่าฯ มหาสารคามเร่งเคลียร์พื้นที่นำรถยนต์ออก เตรียมให้โยธาธิการและผังเมืองมหาสารคามตรวจสอบพรุ่งนี้ได้มาตรฐานหรือไม่
วันนี้ (12 พ.ค. 58) ภายหลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมนายเมธี สุพรรณฝ่าย รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายสิทธิพล เสงี่ยม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม หน่วยกู้ภัยจีเสียงเกาะ กู้ภัยเทพนิมิตร และกู้ชีพโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุห้างโกลบอลเฮ้าส์ สาขามหาสารคาม
ในเบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย ถูกเหล็กโครงหลังคาที่ศีรษะและถูกสังกะสีบาด ทั้งหมดไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล โดยพนักงานห้างโกลบอลเฮ้าส์ได้ช่วยกันเก็บแผ่นสังกะสีที่ปลิวไปกับแรงลมไปกองรวมกัน รวมถึงถ่ายภาพของรถยนต์ลูกค้าที่ได้รับความเสียหายไว้แล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองมหาสารคามได้ใช้เครื่องตัดถ่างตัดเหล็กโครงหลังคาเพื่อเคลื่อนย้ายรถที่ถูกหลังคาทับออกจากที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจเบื้องต้น พบว่าหลังคาโรงจอดรถถูกแรงลมพัดปลิวมาทับรถลูกค้าที่มาซื้อสินค้ากว่า 30 คัน เป็นโรงจอดรถ 2 หลัง ขนาด 8 คูณ 30 เมตร มีร้านค้าเสียหาย 2 ร้าน คือร้านขายลูกชิ้นและขายผลไม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย แต่ไม่ประสงค์รักษาตัวในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือ เคลียร์พื้นที่โรงจอดรถให้เร็วที่สุด ส่วนการตรวจสอบโครงสร้างว่าทางห้างโกลบอลเฮ้าส์ได้ขออนุญาตก่อสร้าง หรือการก่อสร้างได้มาตรฐานหรือไม่ มอบหมายให้โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดมหาสารคามร่วมกับกองวิทยาการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองช่างเทศบาลเมืองมหาสารคาม เข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับเหตุการณ์อาคารห้างโกลบอลเฮ้าส์ถล่มครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 7 โดยก่อนหน้านี้เเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 6 ครั้ง เริ่มจากครั้งที่ 1 ที่สาขาเชียงใหม่ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 เกิดเหตุไฟไหม้ ส่งผลให้ผนังปูนด้านข้างและเพดานยุบตัวลงมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ 2 คน คนหนึ่งถูกปูนตกใส่ อีกคนติดอยู่ภายในรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่ต้องนำชะแลงงัดซากปูนออกท่ามกลางไฟที่กำลังลุกไหม้ใกล้กับบริเวณที่มีถังก๊าซ กระทั่งสามารถช่วยทั้งสองคนออกมาได้
ครั้งที่ 2 สาขานครปฐม วันที่ 31 มีนาคม 2555 หลังคาที่จอดรถพังถล่มลงมาทับรถยนต์เก๋งและกระบะของลูกค้าที่มาซื้อสินค้า ได้รับความเสียหายกว่า 20 คัน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหล็กที่พังลงมาฟาดเข้าที่ศีรษะ 1 คน
ครั้งที่ 3 สาขามุกดาหาร วันที่ 22 มีนาคม 2556 หลังจากเปิดให้บริการได้เพียง 3 เดือน อาคารด้านหน้าพังถล่มลงมาทับรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 5 คัน และมีพนักงานชายศีรษะแตก 3 ราย
ครั้งที่ 4 วันที่ 4 พฤษภาคม 2556 สาขาลำพูน ด้านหน้าถล่มลงมา
ครั้งที่ 5 สาขาสุรินทร์ วันที่ 13 พฤษภาคม 2557 หลังคาโดมซุ้มประตูทางเข้าห้างถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย
ครั้งที่ 6 สาขาลำปาง วันที่ 18 พฤษภาคม 2557 เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงทำให้มีปริมาณน้ำฝนท่วมขังอยู่บนหลังคาอลูมิเนียม จนหลังคารับน้ำฝนไม่ไหว พังถล่มลงมา ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ