xs
xsm
sm
md
lg

เพลิงไหม้บ้านกลางเมืองสกลนครวอดทั้งหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่กำลังดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้บ้านกึ่งไม้กรึ่งปูน ในเขตเทศบาลนครสกลนคร
สกลนคร - เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านกึ่งไม้กึ่งปูนในซอยเดชากลางเมืองสกลนคร เผยเพลิงผลาญนานกว่า 1 ชั่วโมง ข้าวของเสียหายวอดทั้งหลัง โชคดีเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ไม่ลามไปยังบ้านข้างเคียง สันนิษฐานสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร มูลค่าความเสียหายกว่า 6 แสนบาท

เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (12 พ.ค. 58) ร.ต.อ.นาวี แก้วก่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดที่ซอยเดชา ถนนรัฐพัฒนา จ.สกลนคร จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลนครสกลนครออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีนายสุรชัย ศักดิ์สัมฤทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครสกลนคร และนายสุมานิตร ฑีฆธนานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครสกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐากูลสมบัติ สรวงโท ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ดูแลและควบคุมสั่งการอย่างใกล้ชิด

ที่เกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้กึ่งปูนสองชั้น บ้านเลขที่ 1329/1 ซอยเดชา ถ.รัฐพัฒนา ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนางกชพร จันทร์เรือง อายุ 37 ปี โดยเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในบ้านชั้นบนและกำลังลุกลามลงชั้นล่างของตัวบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้รถดับเพลิงกว่า 5 คันฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ หวิดลามไปยังบ้านข้างเคียง เมื่อเพลิงสงบพบว่าสิ่งของที่เก็บไว้ที่บริเวณชั้นล่างของบ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด

จากการสอบสวนนางกชพร จันทร์เรือง เจ้าของบ้าน ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเก่าและไม่มีคนพักอาศัยแล้ว จะใช้เป็นที่เก็บของมากกว่า ก่อนเกิดเหตุตนไม่อยู่ภายในบ้าน มีเพียงช่างซ่อมตู้เย็นร้านที่อยู่ติดกันเล่าว่าได้ยินเสียงคล้ายไฟช็อตจากบนบ้าน จากนั้นมีกลุ่มควันและเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และลามไปตามสายไฟภายในบ้าน จนลุกลามติดสิ่งของภายในบ้านและเสื้อผ้า และกำลังจะลุกลามลงมาชั้นล่าง จึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาควบคุมเพลิง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากบ้านมีสภาพเก่า และสายไฟที่หมดอายุการใช้งาน ผนวกกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้ ส่วนค่าเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ประเมินไว้เบื้องต้นประมาณ 6 แสนบาท โดยเจ้าหน้าที่จะให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง




กำลังโหลดความคิดเห็น