แพร่/อุตรดิตถ์ - พายุเข้าเมืองแพร่ไม่เว้นวัน ผู้ว่าฯ เผยทำลายบ้านเรือนชาวบ้านไปแล้วนับ 1,000 หลัง ขณะที่ชาวฟากท่า เมืองอุตรดิตถ์ เจอพายุซ้ำครั้งที่ 4 ในรอบปี
วันนี้ (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกหนักในเขต อ.เมือง จ.แพร่ โดยเฉพาะในย่านชุมชน เขตเทศบาลเมืองแพร่ ต.ป่าแมต ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันสองฝั่งแม่น้ำ อีกครั้งเมื่อค่ำวานนี้ ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านเสียหายอีกมากกว่า 100 หลัง
หลังเกิดเหตุ นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าแมต และเทศบาลเมืองแพร่ ได้เร่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครกู้ภัย และเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น และสำรวจความเสียหายโดยด่วน
นายศักดิ์กล่าวว่า ช่วงนี้เกิดพายุขึ้นบ่อยมาก บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบนับ 1,000 หลัง ปรากฏการณ์นี้เป็นภัยพิบัติที่มองข้ามไม่ได้อีกแล้ว ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ไม่เพียงรอการช่วยเหลือจากจังหวัด หรือหน่วยงานของทางราชการเพียงอย่างเดียว จะต้องหาทางป้องกันทั้งการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และโครงสร้างของอาคารบ้านเรือน ผู้ที่สร้างบ้านใหม่อาจต้องคิดถึงมาตรฐานของบ้านที่สามารถรองรับพายุได้ หรือรูปทรงที่รองรับพายุได้ ซึ่งถือว่าเป็นแง่คิด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
ด้านนายทรงฤทธิ์ แก้วสุทธิ นายอำเภอเมืองแพร่ บอกว่า ตั้งแต่ค่ำวันที่ 10 พ.ค. จนถึงเช้าวันที่ 11 พ.ค. เจ้าหน้าที่ได้ออกทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และเร่งเข้าไปสำรวจเพื่อจัดงบประมาณลงไปซ่อมแซมบ้านให้เร็วที่สุด ซึ่งได้สั่งการผ่านทางศูนย์วิทยุสื่อสารอำเภอเมือง ศูนย์ช่อแฮ ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านเร่งสำรวจความเสียหายที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนถล่มว่ามีความเสียหายอย่างไร เพื่อจะได้รวบรวมส่งจังหวัดให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน รวมทั้งยังมีหน่วยทหารจากกองพันทหารม้าที่ 12 เด่นชัย เข้าร่วมสำรวจความเสียหายใน ต.ป่าแมต และได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านด้วย
วันเดียวกัน ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มหมู่บ้านกกต้อง หมู่ 3 ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ทำให้บ้านเรือนหลายหลังหลังคาปลิวหายไปตามกระแสลม กิ่งต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ของวัดกกต้องหัก เสาไฟฟ้าล้ม ทำให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน รถยนต์ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้
เบื้องต้นทางอำเภอฟากท่าได้ออกทำการสำรวจความเสียหาย พบว่าหมู่ที่ 3 บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 47 หลัง หมู่ที่ 4 เสียหาย 9 หลัง และหมู่ที่ 7 เสียหาย 1 หลัง รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กปากไพร ฟ้าผ่าวัวตาย 1 ตัว