ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทีมงานสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบพันธุ์ เผยผลตรวจสุขภาพคู่รักหมีแพนด้าของสวนสัตว์เชียงใหม่ พบสุขภาพแข็งแรงดี พร้อมชี้ “หลินฮุ่ย” มดลูกปกติ และมีความสมบูรณ์ แต่ยังไม่แสดงอาการพร้อมผสมพันธุ์ หากพบเป็นสัดพร้อมจับผสมพันธุ์ตลอดเวลา ตั้งเป้าได้ลูกแพนด้าน้อยตัวใหม่ภายในปีนี้
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ รักษาการผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย และรองศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ ดร.สุดสรร ศิริไวทยพงศ์ อาจารย์ภาควิชาสูติศาสตร์ เธนุเวชวิทยา และวิทยาการสืบพันธุ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจสุขภาพหมีแพนด้า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูผสมพันธุ์
หัวหน้าคณะทำงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสุขภาพ “ช่วงช่วง” หมีแพนด้าตัวผู้ และ “หลินฮุ่ย” หมีแพนด้าตัวเมีย เบื้องต้นพบว่า ทั้งคู่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี ทั้งนี้ ในส่วนของ “หลินฮุ่ย” หลังจากที่ช่วงต้นปี 2557 ได้แสดงอาการตั้งครรภ์แต่สุดท้ายแท้งลูกแล้ว ตลอดทั้งปี 2557 ก็ไม่แสดงพฤติกรรมเป็นสัดพร้อมผสมพันธุ์เลย
ขณะที่การติดตามการเป็นสัดของ “หลินฮุ่ย” อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เดือน ม.ค.58 จนถึงปัจจุบัน ยังพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และพฤติกรรมที่แสดงถึงอาการเป็นสัด ซึ่งทีมวิจัยจะดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยที่ยังคงมีการตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะต้องประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์จนมีลูกหมีแพนด้าตัวใหม่ให้ได้ ซึ่งทีมงานพร้อมที่จะผสมพันธุ์ทุกเมื่อหาก “หลินฮุ่ย” แสดงพฤติกรรมพร้อมที่จะผสมพันธุ์
สำหรับช่วงฤดูผสมพันธุ์ของหมีแพนด้านั้น นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ระบุว่า ที่จริงแล้วเป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้นว่าส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเวลาใดของปี อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่พร้อมผสมพันธุ์ของหมีแพนด้า ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และไม่จำเป็นต้องตรงกับค่าเฉลี่ยเสมอไป ซึ่งที่ผ่านมา “หลินฮุ่ย” ก็เคยแสดงให้เห็นมาแล้ว ดังนั้น ในทุกช่วงเวลาตลอดทั้งปีนี้จึงยังมีโอกาสและความเป็นไปได้ตลอดเวลาที่ “หลินฮุ่ย” จะพร้อมผสมพันธุ์ ซึ่งจะมีการเฝ้าติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้านรองศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์ ดร.สุดสรร กล่าวว่า จากการอัลตร้าซาวนด์ตรวจโครงสร้างมดลูกของ “หลินฮุ่ย” โดยที่ไม่ได้วางยาสลบ สามารถตรวจพบกระเพาะปัสสาวะได้อย่างชัดเจน และในตำแหน่งที่ติดกันคือ มดลูกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-4 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดปกติของหมีแพนด้า ที่ไม่ได้อยู่ในระยะผสมพันธุ์ โดยลักษณะมดลูกที่พบอยู่ในเกณฑ์ลักษณะที่ปกติ
