นครปฐม - เกิดอุบัติเหตุรถ จยย.ชนกันบนถนนสายเนินพระ-บางราโท เมืองนครปฐม เสียชีวิต 2 ราย ระหว่างเก็บศพรถกระบะวิ่งผ่านพบที่กระจกหน้ามีรอยแตก ญาติผู้เสียชีวิตเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถต้นเหตุกรุวิ่งเข้าขวาง ก่อนเจ้าของกระบะจะเอาเอกสารจากประกันภัยมายืนยันถูกต้นไม้ล้มทับไม่เกี่ยวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนหวิดเกิดมวยหมู่กลางเหตุการณ์สลด
เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันนี้ (7 พ.ค.) ร.ต.ท.บรรเจิด นพสมบูรณ์ ร้อยเวรสอบสวนเวร สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งเหตุมีรถชนกันที่บริเวณถนนเนินพระ-บางราโท พื้นที่หมู่ 3 ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตสภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กลางถนน ใกล้กันพบซากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงขาว หมายเลขทะเบียน อวข 290 กรุงเทพมหานคร ในสภาพพังยับทั้งคัน ชิ้นส่วนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายราเชนทร์ พงษ์เภา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/2 หมู่ 1 ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม
ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 เมตร พบรถจักรยานยนต์ตกลงไปในคลองสาธารณะอีกคัน ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาว หมายเลขทะเบียน วกจ 2098 นครปฐม สภาพด้านพังยับ ส่วนผู้ขับขี่พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่ง ทราบชื่อคือ นายสมพงษ์ ปานไหม อายุ 25 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุมีพยานเห็นเหตุการณ์ระบุว่า รถที่ชนเป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู แต่ไม่ทราบเหตุการณ์แน่ชัด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเจ้าหน้าที่กลับไม่พบชิ้นส่วนของรถยนต์ตกอยู่ พบเพียงชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน คาดว่ารถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันอาจจะเฉี่ยวชนกันเอง เพราะจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านของ นายสมพงษ์ ปานไหม ซึ่งนายสมพงษ์ น่าจะกำลังเลี้ยวรถเข้าบ้าน และเป็นจังหวะเดียวกับที่รถของนายราเชนทร์ วิ่งมาทางตรงพอดี ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนกันอย่างแรง ก่อนที่รถอีกคันจะกระเด็นตกลงไปในคลอง จนเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่ทั้ง 2 คน เสียชีวิต
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเคลื่อนย้ายศพได้เกิดเหตุโกลากลขึ้น เมื่อมีรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแคกซ์ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน 2 กฐ 6020 กรุงเทพ ขับผ่านมาพอดี โดยที่สภาพกระจกรถด้านหน้ามีรอยแตก ทำให้กลุ่มญาติของผู้ตายเกิดความไม่พอใจ และเข้าใจผิดคิดว่ารถคันดังกล่าวเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ จึงวิ่งกรูเข้าไปขวางให้รถยนต์คันดังกล่าวจอดเพื่อตรวจสอบ พร้อมกับตะโกนด่าทอ ก่อนที่เจ้าของรถคันดังกล่าวจะลงมาเจรจาว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนกระจกด้านหน้ารถที่แตกนั้นเกิดจากต้นไม้ล้มทับ พร้อมกับได้มีการนำเอกสารการแจ้งประกันภัยมาชี้แจงต่อทางกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจนเกิดความเข้าใจ ก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกันไป ก่อนที่จะมีมวยหมู่เกิดขึ้นกลางเหตุการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
