จันทบุรี - คนร้ายเข้าขโมยทรัพย์สินในร้านเสริมสวยสาวกลางเมืองจันทบุรี ก่อนจะใช้ลิปสติกเขียนข้อความบนกระจก “มึงนอกใจกูตาย” ตำรวจมุ่งประเด็นน่าจะเป็นแฟนหนุ่มที่มาติดพันก่อเหตุ พร้อมเร่งติดตามแฟนหนุ่มมาทำการสอบสวน
วันนี้ (6 พ.ค.) พ.ต.ท.จงเดช ศรีตะวัน สารวัตรเวร สภ.เมืองจันทบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.โรส เรืองฤทธิ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/6 หมู่ที่ 3 ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เจ้าของร้านเสริมสวย ว่า มีคนร้ายเข้ามารื้อค้นหาทรัพย์สินภายในร้าน และพบว่าเครื่องสำอาง เงินสดที่อยู่ภายในร้านหายไป
หลังรับแจ้งจึงไปที่เกิดเหตุเป็นร้านเสริมสวย ชื่อร้านโรสบิวตี้ และเปิดขายเครื่องสำอางด้วย พบ น.ส.โรส เรืองฤทธิ์ ผู้เสียหายยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในร้านพบข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเต็มร้าน ตรวจสอบพบเครื่องสำอางเซรั่มบำรุงผิวหายไปหลายรายการ มูลค่าประมาณ 40,000 บาท และเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์หายไป 5,000 บาท
นอกจากนั้น บริเวณที่กระจกภายในร้านได้ถูกคนร้ายใช้ลิปสติกเขียนข้อความว่า “มึงนอกใจกูตาย” ในเบื้องต้นพบว่า ร้านเสริมสวยร้านนี้ไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด ในเบื้องต้น น.ส.โรส ได้สงสัยว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุน่าจะเป็นแฟนหนุ่มชื่อ นายแจ๊ค ที่คบหากันมาประมาณ 6 เดือน และได้เข้ามาติดพันตนเอง แต่ตนเองไม่เล่นด้วย จึงทำให้นายแจ๊ค น่าจะเกิดความโมโห และอาจจะเข้าก่อเหตุ
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวนายแจ๊ค มาทำการสอบสวนว่าเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้หรือไหม หากพบว่า นายแจ๊ค เป็นผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องมีการดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะเนื่องจาก น.ส.โรส ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้
จากการสอบถาม น.ส.โรส ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนไม่ได้นอนที่ร้าน และเช้าวันนี้ก็ได้เปิดประตูร้านเข้ามาก็เห็นข้อความที่กระจก และก็พบว่า ข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ตรวจสอบพบว่าเครื่องสำอางหายไปหลายรายการ มูลค่าประมาณ 40,000 บาท ซึ่งตนสงสัยแฟนหนุ่มที่เข้ามาติดพันตน แต่ตนไม่เล่นด้วย จึงอาจจะเป็นชนวนทำให้แฟนหนุ่มเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งแฟนหนุ่มรายนี้ได้แอบชอบตนมาประมาณ 6 เดือนแล้ว
อีกทั้งเมื่อคืนก็ได้ไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนแฟนหนุ่มก็ได้มาเจอ และบอกให้ตนกลับบ้าน ซึ่งตนก็ตอบไปว่า ยังไม่กลับ ทำให้แฟนหนุ่มเข้ามาผลักตนล้ม และกระชากกระเป๋าของตนไป พอเช้ามาเปิดร้านก็พบเห็นข้าวของถูกรื้อค้น และทรัพย์สินหายไปจึงได้โทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
