พิจิตร - เมืองชาละวันโดนด้วย พายุฤดูร้อนพัดถล่ม 2 อำเภอ ทำบ้านเรือนเสียหายรวมเกือบ 200 หลัง คาด เฉพาะบ้านไม้ตลาดเก่าริมน้ำยมอ่วมกันทั่วหน้า
วันนี้ (6 พ.ค.) นายสุวิทย์ เดชครุฑ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยว่า จากการสำรวจผลกระทบพายุฤดูร้อนที่พัดถล่มพื้นที่ อ.สามง่าม เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าบ้านเรือนราษฎรในเขตหมู่ 4 ต.สามง่าม ซึ่งเป็นบ้านไม้ตลาดเก่าริมแม่น้ำยม และบริเวณหมู่ 6 บ้านรายชะโด เสียหายเกือบ 100 หลังคาเรือน บางหลังลมพายุหอบเอาหลังคา และฝาบ้านปลิวไปไกลหลายสิบเมตรเสียหายกันถ้วนหน้า
นางอารีย์ แสงศาสตร์ อยู่บ้านเลขที่ 129/2 หมู่ 4 ต.สามง่าม เล่าว่า ก่อนเกิดลมพายุเห็นท้องฟ้าเป็นสีเหลืองที่ชาวบ้านเรียกว่า “อุกาฟ้าเหลือง” พอค่ำลงก็เริ่มมีฝนตก และลมพัดแรง ฟ้าร้องฟ้าผ่า จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น.ก็มีลมพัดแรงทำเอาหลังคาบ้านปลิว ตนเองอยู่ในบ้านกับลูกตกใจมากรีบวิ่งลงมาชั้นล่างเพราะกลัวฟ้าจะผ่าลงมา ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงฝนฟ้าเริ่มสงบลงจึงขึ้นไปดูบนบ้านก็พบว่าทรัพย์สินเสียหายย่อยยับ ตอนนี้รอความหวังให้ทางราชการช่วยเหลือ
ขณะที่นายประโยชน์ ติณะคัต ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 4 และอยู่ใกล้กับวัดสามง่าม เล่าว่า อายุเกือบ 70 ปีแล้วเพิ่งเคยเจอพายุที่พัดแรงสุดๆ ก็คราวนี้ บ้านเรือนของตนเป็นบ้านไม้แบบโบราณใต้ถุนยกสูง ถูกลมพัดถล่มเอาหลังคาปลิวลงมาทั้งแผง และร่วงใส่รถเก๋งที่จอดอยู่ข้างบ้าน ข้าวของเครื่องใช้เสียหายมูลค่าคงไม่น้อยกว่า 50,000 บาท ความหวังคือรอความช่วยเหลือจากทางราชการและอยากเร่งซ่อมบ้านให้เร็วที่สุดเพราะไม่มีที่พักพิง แต่ก็ทราบว่าช่วงนี้ช่างไม้ ช่างก่อสร้าง หาได้ยากมาก เพราะมีพายุพัดถล่มหลายพื้นที่ในพิจิตร
ขณะที่นายไชยา สมถวิล นายอำเภอวชิรบารมี ก็ได้รายงานว่า ในเขต ต.หนองหลุม ต.วังโมกข์ ต.บ้านนา มีบ้านเรือนราษฎรถูกลมพายุพัดพังมากถึง 82 หลังด้วยเช่นกัน โดยที่ ต.หนองหลุม ม.1 จำนวน 4 หลังคาเรือน, ม.7 จำนวน 10 หลังคาเรือน, ม.9 จำนวน 3 หลังคาเรือน, ม.10 จำนวน 10 หลังคาเรือน, ม.12 จำนวน 1 หลังคาเรือน, ตำบลวังโมกข์ ม.6 จำนวน 10 หลังคาเรือน, ตำบลบ้านนา ม.1 จำนวน 37 หลังคาเรือน, ม.5 จำนวน 2 หลังคาเรือน, ม.6 จำนวน 1 หลังคาเรือน, ม.9 จำนวน 1 หลังคาเรือน รวม 82 หลังคาเรือน
