อุดรธานี/หนองคาย/อุบลราชธานี - เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม 3 จังหวัดอีสาน โดยเฉพาะอำเภอน้ำโสมพายุรุนแรงสุดในรอบหลายปี คาดบ้านเรือนเสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน ส่วนที่หนองคาย โป๊ะขนสินค้าผ่านแดนหลุดจากฝั่งไหล โชคดีเจ้าหน้าที่สามารถกู้โป๊ะกลับฝั่งอย่างปลอดภัย ขณะที่ อ.วารินชำราบ ถูกพายุซ้ำรอบสอง เสาไฟฟ้าหักโค่นกว่า 9 ต้น
เย็นวันนี้ (5 พ.ค. 58) เกิดพายุฤดูร้อนพลัดถล่มในหลายจังหวัดภาคอีสาน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหลายพื้นที่ โดยที่อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี ถูกพายุพัดกระหน่ำนานนับชั่วโมง ส่งผลให้โรงพยาบาลน้ำโสมเสียหายหนัก ส่วนบ้านเรือนชาวบ้าน ร้านค้า ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายจำนวนมาก และไฟฟ้าทั่วเมืองดับนานกว่า 4 ชั่วโมง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกสำรวจความเสียหาย คาดมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายมากกว่า 500 หลังคาเรือน ซึ่งชาวบ้านระบุว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง เกิดลมกระโชกแรงนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้โป๊ะขนส่งสินค้าผ่านแดน ท่านาแล้ง สปป.ลาว ขาดหลุดออกจากฝั่งไหลไปตามแม่น้ำโขง โดยภายในโป๊ะมีแรงงานติดไปด้วยกว่า 10 ชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำหนองคาย และเจ้าหน้าที่จาก สปป.ลาว เร่งนำเรือออกติดตามช่วยเหลือ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถช่วยเหลือและลากโป๊ะกลับไปยังฝั่งได้โดยปลอดภัย
ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านทุ่งเกษม หมู่ 5 ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ทำให้เสาไฟฟ้า 9 ต้นริมทางหลวงหมายเลข 2178 อำเภอวารินชำราบ-สำโรง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 5-6 ถูกแรงลมพายุพัดจนหักลงมาขวางถนนฝั่งขาออก 1 ช่องทาง ยานพาหนะที่แล่นผ่านต้องใช้ความระมัดระวัง และทำให้ไฟฟ้าบริเวณนั้นดับ แรงลมยังพัดเอาโครงเหล็กป้ายโฆษณาสินค้าและโครงเหล็กหลังคาที่จอดรถพังเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
หลังฝนหยุดตกการไฟฟ้าอำเภอวารินชำราบนำอุปกรณ์พร้อมช่างเข้าตัดกระแสไฟฟ้า และซ่อมแซมให้ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นต่อไป
ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี รายงานว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ รวมทั้งมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 36-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้มีความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งลักษณะอากาศยังเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 11 พ.ค. ศกนี้