นครพนม - ชาวท่าอุเทนผวา! หลังลือสะพัดเสือโคร่งลายพาดกลอน หนีไฟไหม้ป่าข้ามโขงมาจากลาว นายอำเภอเร่งพิสูจน์ตรวจสอบเตือนงดหาของป่า หวั่นไอ้โคร่งขย้ำ
วันนี้ (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่า นายวีระฤกษ์ วานิชย์กุล นายอำเภอท่าอุเทน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน ต.ท่าอุเทน รอยต่อกับ ต.โนนตาล ว่า พบร่องรอยคล้ายเสือขนาดใหญ่ สร้างความแตกตื่น และหวาดผวาให้แก่ชาวบ้าน ขอให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ปลัด อ.ท่าอุเทน หน.ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม พบบริเวณจุดที่ชาวบ้านพบร่องรอยคล้ายเสือบริเวณริมถนนป่าชุมชนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ บ.น้อยหัวบึง หมู่ 6 ต.ท่าอุเทน
น.ส.ปานทอง แสนปุชน วัย 47 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ.น้อยหัวบึง หมู่ 6 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ 2 วันชาวบ้านได้พบเห็นร่องรอยเท้าคล้ายเสือขนาดใหญ่ออกมาเพ่นพ่านบริเวณป่าชุมชน พบซากไก่ และสัตว์ป่าหลายชนิดเกลื่อน คล้ายเหยื่ออาหารของสัตว์ที่หิวโซ ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาไม่กล้าออกไปหาของป่า เก็บหน่อไม้ แหย่ไข่มดแดง จึงมาแจ้งตนให้ทราบเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบ
ขณะที่ นายรัฐวุฒิ มณีลุน อายุ 34 ปี ชาวบ้านกล่าวว่า เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา ตนเข้าไปเก็บของป่าบังเอิญพบสัตว์ตัวใหญ่คล้ายเสือโคร่ง เพราะลำตัวมีสีเหลืองพาดดำ ยาวกว่า 1 เมตร ความสูงประมาณเท่าเอว จึงวิ่งหนีตายออกจากป่าอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนแจ้งให้ทางอำเภอทราบ เพื่อเข้ามาตรวจพิสูจน์ร่องรอยว่าเป็นสัตว์ชนิดใดกันแน่
ด้าน นายวีระ กล่าวว่า หลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ยินแต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านที่พบสัตว์คล้ายเสือจริง 2-3 ราย เพราะบริเวณป่าชุมชนแห่งนี้หนาทึบ และอยู่ไม่ไกลจากชายแดนฝั่งประเทศลาว เป็นไปได้ว่าอาจว่ายน้ำหนีข้ามมาหลังเกิดเหตุไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ จนมีหมอกควันหนาปกคลุมในพื้นที่อำเภอริมฝั่งแม่น้ำโขงไปทั่ว อาจหนีมาหาแหล่งอาหารในไทยก็เป็นได้
นายอำเภอท่าอุเทน กล่าวว่า หากเป็นเสือจริงตามคำบอกเล่าจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกประมาณ 1 กิโลเมตร จากจุดที่ชาวบ้านพบ ขณะเดียวกัน ได้แจ้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านออกประกาศเตือนทางหอกระจายข่าวเพื่อให้ชาวบ้านได้ระมัดระวัง และงดออกไปหาของป่าชั่วคราว จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นรอยเท้าสัตว์ชนิดใดกันแน่