ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังตรวจแผงค้าย่านยอดนิยมของวัยรุ่นหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยึดอาหารเสริมและเครื่องสำอางผิดกฎหมายได้จำนวนมาก ชี้บางผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมเป็นตัวยาอันตรายถึงชีวิต
ช่วงค่ำวันนี้ (30 เม.ย. 58) เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนายมโนรมภ์ สินธพอาชากุล เภสัชกรชำนาญการ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวมกำลังทั้งหมดกว่า 50 คน เข้าตรวจร้านค้าแผงลอยที่ขายของประเภทอาหารเสริม เครื่องสำอาง บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งที่นิยมจับจ่ายซื้อของของกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา โดยสามารถตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางที่ไม่มีเลขทะเบียน ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีการประทับตราองค์การอาหารและยา (อย.) และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนำเข้าที่ยังไม่มีเลขทะเบียนได้หลายร้อยรายการ ซึ่งผลิตภัณฑ์บางส่วนโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนที่ถูกตรวจยึดในวันนี้คาดว่าจะมีส่วนผสมที่ใส่สารไซบูทรามีน ซึ่งหากใช้อย่างต่อเนื่องจะมีการสะสมในร่างกายจนอาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางผิดกฎหมายที่ได้ตรวจยึดในครั้งนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่จะได้นำไปตรวจสอบเพื่อหาส่วนผสมอันตราย ซึ่งหากพบส่วนผสมอันตรายจากร้านใดก็จะนำตัวเจ้าของร้านไปดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ นายมโนรมภ์กล่าวว่า การตรวจสอบครั้งนี้เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาและอาหารเสริมที่ไม่มีเลขทะเบียน โดยจากการตรวจสอบก็พบว่าเป็นอาหารเสริมที่นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งมีฉลากไม่ครบถ้วนตามที่องค์การอาหารและยาได้กำหนดไว้ โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการเก็บผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปตรวจสอบว่ามีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่ พร้อมทั้งยังได้เชิญเจ้าของร้านต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบไปที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาจำหน่ายยาที่ไม่มีทะเบียน อาหารที่ไม่มีเลขสารบบ (อย.) ซึ่งถ้าหลังจากนี้หากตรวจพบว่าตัวยาตัวใดมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลักลอบผสมยาอันตราย โดยเฉพาะยาลดน้ำหนัก ซึ่งที่พบมากที่สุดจะมีการผสมสารไซบูทรามีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยจะทำให้เกิดความดันสูงเฉียบพลันจนเป็นเหตุทำให้หัวใจวายเสียชีวิต ซึ่งจากสถิติในประเทศไทยพบว่าได้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 10 ราย โดยสารดังกล่าวได้มีการยกเลิกทะเบียนยาไปทั่วโลกแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ผลิตบางรายที่ยังลักลอบผสมสารดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้ ขอเตือนกลุ่มวัยรุ่นที่อยากจะผอมสวยว่าหากจำเป็นต้องใช้ยาก็ควรจะไปปรึกษาแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง โดยเฉพาะยาที่โฆษณาขายในอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ควรเชื่อถือ เพราะยาที่ซื้อมาเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นยาจริงหรือปลอม และหากรับประทานเข้าไปอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายจนอาจจะทำให้เสียชีวิตได้