บุรีรัมย์ - สสจ.บุรีรัมย์เร่งฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้กับ จนท.ในสังกัดทั้งจังหวัด ทั้งผู้อำนวยการ รพ.ชุมชุนทุกแห่ง รวมถึงบุคลากรการแพทย์กลุ่มเสี่ยงและสัมผัสโรค ร่วม 100 คน เพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ หลังปีนี้พบผู้ป่วย 395 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
วันนี้ (30 เม.ย.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่และบุคลากรในสังกัด ทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งทั้งจังหวัด รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงและสัมผัสโรคขณะดูแลผู้ป่วย รวมกว่า 100 คน เข้ารับการฉีดวัคซีน ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)บุรีรัมย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มักจะมีการแพร่ระบาดของโรคในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน
หลังต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้พบผู้ป่วยต้องสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่รวมทั้งสิ้นจำนวน 395 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ในครั้งนี้เพื่อให้มีผลทันต่อการป้องกันก่อนจะเข้าสู่ฤดูการระบาดใหญ่ของโรคในช่วงฤดูฝน โดยเร่งรัดในกลุ่มบุคลากรด้านสาธารณสุข ในช่วงเดือนเมษายน
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม จะเร่งรัดในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน และมีช่วงที่ 2 เป็นช่วงเก็บตกในเดือนกรกฎาคม มีเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุมเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ซึ่งวัคซีนในปีนี้มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ เอ เอช เอ็น 1 สายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 และสายพันธุ์บี หลังฉีดแล้วจะใช้เวลากระตุ้นร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อประมาณ 1 เดือน
นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองคนไทยจากโรคร้ายด้วยวัคซีนปี 2558 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยง และสัมผัสโรคขณะดูแลผู้เจ็บป่วย และกลุ่มประชาชน 4 กลุ่ม ที่มีความเสี่ยงเมื่อป่วยแล้วอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอันตรายสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป, กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ มีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป และกลุ่มเด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี โดยทั้ง 4 กลุ่มจะสามารถรับบริการวัคซีนได้ฟรี ที่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้
