บุรีรัมย์ - สองพ่อลูกชาวนา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมหลังถูกหลอกซื้อรถเครื่องจักรกลการเกษตรมูลค่ากว่า 2.5 แสนบาท นานกว่า 8 ปีแต่ไม่ได้รับรถ นำหลักฐานเข้าแจ้งความเรื่องยังเงียบหาย จึงเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมช่วยเหลือติดตามนำเงินพร้อมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้ ธ.ก.ส.กลับคืนให้ทั้งหมด เผยถูกหลอกหลายราย
วันนี้ (29 เม.ย.) นายสังวาล บุญทัน อายุ 60 ปี พร้อม น.ส.อมวรา บุญทัน ลูกสาว ซึ่งมีอาชีพทำนา อยู่บ้านเลขที่ 65 ม.5 ต.ก้านเหลือง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สุดทนนำเอกสารหลักฐานสัญญาซื้อขายเข้าร้องขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ หลังถูก นายสิรวิชญ์ ดาทองหลาง อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ม.12 ต.หนองขวาง อ.จักรราช จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมช่วงล่างรถยนต์ และรับต่อซ่อมรถใช้งานเกษตรกรรม ที่ อ.จักรราช จ.นครราชสีมา หลอกลวงว่าจะต่อรถอีแต๋นหรือรถเครื่องจักรกลการเกษตร โดยทำสัญญาจ่ายเงินผ่านธนาคาร ธ.ก.ส.สาขานางรอง จ.บุรีรัมย์ มูลค่ากว่า 250,000 บาท เมื่อปี 2550 จนถึงปัจจุบันนานกว่า 8 ปีแล้วยังไม่ได้รับรถตามสัญญา
กรณีดังกล่าวนายสังวาล ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกศรีสุข อ.จักรราช จ.นครราชสีมา ไว้แล้วตั้งแต่ปี 2553 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งได้ไปสอบถามที่ ธ.ก.ส. แต่ก็ปัดความรับผิดชอบ ส่วนนายสิรวิชญ์ที่รับปากจะต่อรถให้ก็บ่ายเบี่ยงและล่าสุดไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
จากกรณีดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่นายสังวาลย์ และลูกสาว เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากไม่มีรถมาใช้ในการทำนาแล้วยังต้องแบกรับภาระชำระดอกเบี้ยให้ทาง ธ.ก.ส.ที่ไปกู้ยืมมาซื้อรถอีแต๋นอีกร้อยละ 12 บาทต่อปีอีกด้วย จึงได้เข้ามาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือเร่งรัดติดตามนำเงินที่จ่ายค่าซื้อรถพร้อมดอกเบี้ยกลับมาคืนด้วย
ขณะที่ทางศูนย์ดำรงธรรม จ.บุรีรัมย์ ได้รับเรื่องไว้พร้อมจะประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรม อ.นางรอง และ อ.จักรราช เพื่อเรียกตัว นายสิรวิชญ์ คู่กรณีที่นายสังวาลย์กล่าวหามาเจรจาไกล่เกลี่ยคืนเงินให้สองพ่อลูกภายใน 15 วัน ตามที่ได้เข้ามาร้องเรียนขอความช่วยเหลือ หากไม่มาตามที่นัดหมายหรือมีพฤติกรรมจงใจในการหลอกลวง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่ามีเกษตรกรในหลายพื้นที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันแล้วหลายราย บางรายได้เงินคืน แต่บางรายยังไม่ได้รับเงิน