อุตรดิตถ์ - สองหนุ่มคู่อริอารมณ์ร้อนมีเรื่องทะเลาะกันหลายครั้ง เมาได้ที่เดินมาเจอกัน ท้าทายกันกลางถนนในหมู่บ้าน รุ่นใหญ่ชักมีดเสียบอกรุ่นน้องดับคาที่
วันนี้ (29 เม.ย.) ร.ต.ท.ชัชวาลย์ เหมืองหม้อ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุคนถูกแทงเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้าน หมู่ 9 ต.บ้านเกาะ เมื่อเวลา 02.45 น. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมา พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก. พ.ต.ท.เข็มชาติ ประจง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.จาตุรนต์ ปัจฉิม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมบูรณ์ คล่องใจ สว.สส. นำกำลังสายตรวจและชุดสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ไปตรวจสอบ
พบศพชายไทย สักลายทั้งด้านหน้าและหลัง หว่างขาพบท่อน้ำเหล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้วครึ่ง ยาว 50 เซนติเมตร ที่ด้านหลังพบมีดสเตนเลสยาวประมาณ 8 นิ้วพกอยู่ ทราบชื่อคือ นายนเรศ เหล็กแย้ม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 9 ต.บ้านเกาะ จากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ พบว่าถูกของมีคมแทงเข้าที่กลางอก 2 แผล
นางสาวประมวล เหล็กอิ่ม อายุ 49 ปี ให้การว่า ผู้ที่ใช้อาวุธมีดแทงนายนเรศถึงแก่ความตายคือ นายจันทร์ลอน ซึ่งเป็นสามีของตนเอง หลังก่อเหตุนายจันทร์ลอนได้หลบหนีไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนายชเลง ศิริวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ว่า นายจันทร์ลอนหนีไปซ่อนอยู่ที่บ้านร้างไม่มีเลขที่ ห่างจากที่เกิดเหตุไปประมาณ 300 เมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปยังบ้านร้างหลังดังกล่าว พบนายจันทร์ลอนนั่งอยู่บนบ้านในอาการมึนเมา ข้างตัวมีมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดวางอยู่ จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก นายจันทร์ลอนรับสารภาพว่าใช้อาวุธมีดแทงนายนเรศเสียชีวิตจริง เนื่องจากตนและผู้ตายเคยทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ วันเกิดเหตุผู้ตายเมา แล้วเดินมาเจอกันกลางถนนภายในหมู่บ้าน จึงเกิดการท้าทายกัน ซึ่งผู้ตายถืออาวุธจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงใช้มีดแทงนายนเรศจนเสียชีวิตดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายจันทร์ลอนว่า “ฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งร.ต.ท.ชัชวาลย์ เหมืองหม้อ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป