ผู้จัดการแบงก์การค้าลาวข้ามเยี่ยมญาติที่มุกดาหารหายตัวลึกลับ คาดถูกจี้ชิงทรัพย์

มุกดาหาร - ผู้จัดการธนาคารการค้าลาวข้ามมาเยี่ยมญาติที่มุกดาหาร แต่กลับหายตัวลึกลับ พบรถเก๋งยี่ห้อเกีย รุ่นออฟติวา สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9121 สะหวันนะเขต จอดทิ้งอยู่ริมถนนมุกดาหาร-ดอนตาล ตรงข้ามร้านอาหารตำนานป่า แต่ไม่พบเจ้าของรถ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจมีการลักพาตัว หรือถูกชิงทรัพย์เพราะห้อยสร้อยคอและสวมเลสทองคำหนักร่วม 10 บาท

วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ คูนาเมือง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากนางเลียบ เจดตะวง อายุ 67 ปี ชาวแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ให้ช่วยติดตามหา นายอะทิวา เจดตะวง อายุ 45 ปี บุตรชาย ซึ่งได้ขับรถยนต์ยี่ห้อเกีย หมายเลขทะเบียน กข 9121 สะหวันนะเขต มาเยี่ยมญาติที่ จ.มุกดาหาร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 เม.ย. 58 และหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่แจ้งให้ญาติที่อยู่แขวงสะหวันนะเขตได้รับทราบ

จนกระทั่งในเช้าวันที่ 27 เม.ย. ได้รับการติดต่อจากทางธนาคารการค้าลาว ว่านายอะทิวาไม่เข้ามาทำงาน ซึ่งนายอะทิวามีตำแหน่งเป็นผู้จัดการ

หลังจากนั้นนางเลียบได้โทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือลูกชาย แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับและไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรศัพท์มาสอบถามนางเพ็ญนิคม ไชยสิทธิ์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 162 หมู่ 3 บ้านศูนย์ไหม อ.เมือง จ.มุกดาหาร ญาติที่อยู่ใน จ.มุกดาหาร ซึ่งได้รับการบอกเล่าจากนางเพ็ญนิคมว่า นายอะทิวาได้มาหาตนเมื่อช่วงเวลา 15.00 น.ของวันที่ 26 เม.ย. และได้พากันไปกินข้าวที่ร้านอาหารนรินทร์ ต่อด้วยร้านหมูกระทะมโนรมย์

หลังจากนั้นนายอะทิวาได้มาส่งตนที่บ้านและเดินทางกลับคนเดียว ตนคิดว่านายอะทิวาได้ข้ามไปยังฝั่งลาวแล้ว จนกระทั่งเช้าวันนี้ (27เม.ย.) นางเลียบ เจดตะวง มารดานายอะทิวาโทรศัพท์สอบถามจึงรู้ว่ายังไม่กลับและไม่ทราบไปที่ไหน จึงได้แนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองมุกดาหาร

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเกีย รุ่นออฟติวา สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 9121 สะหวันนะเขต ของนายอะทิวา จอดทิ้งอยู่ริมถนนมุกดาหาร-ดอนตาล ตรงข้ามร้านอาหารตำนานป่า แต่ไม่พบเจ้าของรถ และรถเก๋งยังได้ล็อกประตูไว้ และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำกุญแจสำรองจากญาติเปิดประตูรถและได้ตรวจค้นพบตะขอสร้อยทองคำ และจี้พระหล่นอยู่ที่เบาะนั่งคนขับ และมีคราบเลือดติดที่เบาะคนขับ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนเบื้องต้นจากญาติทราบว่านายอะทิวาได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือรวมกันหนักประมาณ 10 บาทในช่วงที่ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารทั้ง 2 แห่ง อาจมีกลุ่มคนร้ายที่เห็นนายอะทิวาสวมสร้อยคอทองคำหนักกว่า 10 บาทและพกเงินจำนวนมากจึงวางแผนและหาโอกาสจี้ชิงทรัพย์ เมื่อสบโอกาสที่นายอะทิวามาจอดรถที่ตรงข้ามร้านอาหารตำนานป่าจึงได้ลงมือจึ้ชิงทรัพย์ดังกล่าว และเมื่อมีการต่อสู้ขัดขืนจึงทำร้ายร่างกายก่อนอุ้มตัวหายไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าเสียชีวิตหรือไม่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเรียกพนักงานร้านอาหารใกล้ที่เกิดเหตุมาสอบปากคำหาเบาะแสเพื่อติดตามตัวผู้สูญหาย และผู้ก่อเหตุต่อไป