มหาสารคาม - เกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่แห่งแรกของมหาสารคามประสบปัญหาผลผลิตเสียหายจากภาวะภัยแล้งและเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดเกือบ 40 องศา ส่งผลให้ผลลิ้นจี่แตกเสียหายจำนวนมาก และขาดทุนหนัก รายได้ลดลงจากปีก่อนจาก 5-8 หมื่นบาท เหลือเพียง 4-5 พันบาท
นายธงชัย ชอบแก้วกลาง เกษตรกรบ้านเหล่าบัวบาน ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ตนมีที่ดินอยู่ 10 ไร่ ปลูกสวนลิ้นจี่ไว้ 200 ต้น โดยเริ่มปลูกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ปลูก 3 ปีก็สามารถเก็บผลผลิตได้ ซึ่งจะออกผลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมของทุกปี แต่มาในปีนี้เมื่อเริ่มเข้าสู่เดือนมีนาคมปริมาณน้ำจากคลองชลประทานมีไม่เพียงพอ ทั้งฝนทิ้งช่วงนาน ประกอบกับชลประทานงดจ่ายน้ำใกล้เขตพื้นที่เกษตรของตน
ที่สำคัญคือสภาพอากาศก่อนหน้านี้ที่ร้อนจัด อุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาฯ ติดต่อกันเป็นเวลาเกือบ 1 อาทิตย์ อากาศขาดความชื้นและร้อนต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ ทำให้ผลลิ้นจี่แทนที่จะออกผลดกและสวย กลับกลายเป็นผลลิ้นจี่แตกเสียหายมากกว่า 100 ต้น ส่วนลูกลิ้นจี่ที่กำลังโตก็เปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลืองไปทั่วทั้งสวน ผลเล็กแห้งเหี่ยวจนขายไม่ได้ ต้องปล่อยเน่าทิ้งคาต้นไป
นายธงชัย ชอบแก้วกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติจะขายลิ้นจี่ราคากิโลกรัมละ 50 บาท สร้างรายได้ต่อการเก็บแต่ละครั้งประมาณ 50,000-80,000 บาท ซึ่งหากคิดเฉลี่ยแต่ละต้นจะขายผลผลิตได้อยู่ที่ต้นละ 3,000 บาท สำหรับผู้ซื้อจะเป็นพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน ทำให้ตนมีรายได้เลี้ยงครอบครัวและเป็นทุนทำนา ปรับปรุงสวนลิ้นจี่ต่อ
แต่พอมาเจอภัยแล้งและสภาพอากาศแบบนี้ยอมรับว่าปรับตัวไม่ทัน คาดว่าคงขาดทุนหนักแน่ รายได้หดหายไปหมด แทนที่จะมีรายได้จากการขายลิ้นจี่ชดเชยรายได้จากการไม่ได้ทำนาปรัง คงต้องจำใจยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น