xs
xsm
sm
md
lg

เผาแล้วเหยื่อวัยรุ่นปืนโหดกาญจน์ ญาติผวาหลังผู้ต้องหาได้ประกันตัวหวั่นถูกฆ่าปิดปาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - เผาแล้วเหยื่อวัยรุ่นขับเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีแดง ปืนโหดยิงวัยรุ่นอีกฝ่ายดับเสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 1 ที่กาญจนบุรี ขณะที่ญาติเผยผู้ตายไม่เคยมีอาวุธปืน อีกทั้งเป็นคนทำงานเลี้ยงครอบครัว และลูกน้อยมาโดยตลอด ส่วนภรรยาสาวผู้ตายเตรียมฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูแลบุตรจากฝ่ายผู้ต้องหา ฝ่ายแม่เหยื่อกระสุนปืนที่ได้รับบาดเจ็บผวา หลังข่าวลือผู้ต้องหาปืนโหดได้รับประกันตัว หวั่นลูกชายถูกตามเก็บปิดปาก ต้องย้ายลูกชายออกจาก รพ.มะการักษ์


ความคืบหน้ากรณี นายจองชัย หรืออ๊อด บานเย็น อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 135/3 หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีแดง หมายเลขทะเบียน กท 2207 กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงนายประดิษฐา กระทุ่มทอง อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และนายสุทธิพงษ์ นุ่มวัฒนา อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขณะที่ทั้ง 2 ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน ขนว 379 กาญจนบุรี เหตุเกิดที่บ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ นายประดิษฐา ถูกยิงเข้าตามร่างกายหลายนัดเสียชีวิตที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ ส่วนนายสุทธิพงษ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมะการักษ์ ต่อมา เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา นายจองชัย หรือ อ๊อด บานเย็น มือปืนได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อมอบตัว

ต่อมา เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดติดตามจับกุม ร่วมกับ พ.ต.อ.นิพนธ์ จันทร์ทอง ผกก.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ เครือวณิชธรรม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ลาดหญ้า พ.ต.ท.พิชัย ธนาอัศวพันธ์ รอง ผกก.สส.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.ท.ก้องเกียรติ ตั้งกิตติกุล รอง ผกก.ปป.สภ.ลาดหญ้า พ.ต.ท.บุญส่ง พิพัฒน์ทวีกุล สว.สส.สภ.ลาดหญ้า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้คุมตัวนายจองชัย ผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ถนนด้านหลัง สภ.ลาดหญ้า

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (18 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากญาติของผู้เสียชีวิต และแม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน โดยทางญาติได้เคลื่อยย้ายศพนายประดิษฐา กระทุ่มทอง จากบ้านไปฒาปนกิจศพที่วัดทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังได้รับการประสานผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบญาติของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บที่วัดดังกล่าว

ไปถึงพบ น.ส.ฐิตาภรณ์ กระทุ่มทอง อายุ 58 ปี น.ส.ปุนยานุช นวมพันธ์ อายุ 22 ปี ด.ญ.ปุณยนุช กระทุ่มทอง อายุ 3 ปี 5 เดือน น.ส.ศิรินันท์ กระทุ่มทอง อายุ 23 ปี ญาติของนายประดิษฐา กระทุ่มทอง และนางชะบา นุ่มวัฒนา อายุ 50 ปี มารดาของนายสุทธิพงษ์ นุ่มวัฒนา อายุ 25 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสอยู่ที่ศาลาหน้าเมรุ โดยพระสงฆ์กำลังสวดมนต์ทำพิธีทางศาสนาก่อนที่จะทำพิธีฒาปนกิจศพของนายประดิษฐา กระทุ่มทอง โดยมีญาติ และเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งมาร่วมงาน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก

น.ส.ฐิตาภรณ์ กระทุ่มทอง ญาติของนายประดิษฐา กระทุ่มทอง เปิดเผยว่า พ่อ และแม่ของนายประดิษฐา ได้เสียชีวิตตั้งแต่หลานชายยังเป็นเด็ก ตนจึงเลี้ยงดูเขากับน้องหลานสาวมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากเรียนจบหลานชายก็ได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อถึงเทศกาลวันหยุดก็จะกลับมาเยี่ยมบ้านทุกครั้ง อีกทั้งนิสัยส่วนตัวก็ไม่ใช่คนเกเร และไม่เคยไปหาเรื่องทะเลาะกับใคร อาวุธปืนก็ไม่เคยมี

ก่อนเกิดเหตุเย็นวันที่ 14 เม.ย.หลานชายอยู่ที่บ้านกับตน รวมทั้งภรรยา และลูกสาว และได้ปรึกษากันเกี่ยวกับงานบวชที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 เม.ย.ที่จะถึงนี้ หลานชายมีความตั้งใจที่จะบวชให้กับปู่และย่าเป็นอย่างมาก และได้มีการปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับพิธีการจัดงานอย่างจริงจัง เมื่อพูดถึงปู่กับย่าหลานชายก็จะร้องไห้ดีใจที่จะได้บวชให้ ทำให้ตนดีใจที่จะได้บวชให้แก่หลานจนต้องร้องไห้ตามไปด้วย

จนกระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ขณะที่หลานชายกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่หน้าบ้านกับนายสุทธิพงษ์ นุ่มวัฒนา และเพื่อนๆ อีกจำนวนหนึ่ง ประกฏว่า ผู้ต้องหาคือ นายจองชัย หรืออ๊อด บานเย็น และแฟนสาวที่เป็นญาติกับพวกตนขับรถยนต์เก๋งผ่านมาโดยไม่ได้ปิดกระจกหน้ารถ และผู้ต้องหาได้หันมามองหน้ากลุ่มของหลานชายเหมือนกับไม่พอใจ แต่แทนที่นายจองชัย จะขับรถยนต์ผ่านไปเลยกลับไม่ทำ ยังมาชะลอรถยนต์คล้ายจะหาเรื่อง

ขณะนั้นตนอยู่ในบ้านแต่ก็มองเห็น ต่อมาหลายชายของตนกับเพื่อนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปเพื่อขอเคลียร์ โดยทั้งสองนุ่งแค่กางเกงกีฬาคนละตัวเท่านั้น และไม่มีอาวุธปืนตามคำให้การของผู้ต้องหาแต่อย่างใด ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด ตนและชาวบ้านต่างร้องตะโกนด้วยความตกใจ และรีบวิ่งออกมาดู และพบว่า หลานชายกับเพื่อนถูกยิงเข้าตามร่างกายจำนวนหลายนัด ทุกคนจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์

แต่สุดท้ายหลายชายก็มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ดังนั้น จากคำให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจของนายจองชัย จึงไม่เป็นความจริงที่บอกว่าหลานชายของตนกับเพื่อนจะทำร้ายด้วยอาวุธปืน ตนขอยืนยันว่า หลานชายแค่จะไปเคลียร์ปัญหาเท่านั้น ไม่มีเจตนาทำร้ายแต่อย่างใด

และหากถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเต็มที่ก็แค่ด่าทอชกต่อยกันตามประสาวัยรุ่นเท่านั้นก็พอ แต่นี่หลานชายกับเพื่อนยังไม่ทันได้ทำอะไร นายจองชัย ผู้ต้องหากลับใช้อาวุธปืนยิงใส่หลานชายหลายนัดเสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด ตนในฐานะอาที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กจึงขอความเป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่วัยรุ่นคนอื่นไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีข่าวลือว่า นายจองชัย ผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมาแล้ว พวกตนจึงมีความรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงอยากสอบถามไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเรื่องดังกล่าวจริงเท็จหรือไม่อย่างไร

น.ส.ศิรินันท์ กระทุ่มทอง อายุ 23 ปี ภรรยา กล่าวด้วยความเศร้าโศกว่า ตนกับสามีอยู่กินกันมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุแค่ 3 ขวบ 5 เดือน หลังจากสามีตนถูกยิงเสียชีวิต ครอบครัวของตนจึงขาดเสาหลักไป เพราะสามีเป็นคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว และไม่เคยลำบาก สงสารแต่ลูกสาวที่ยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าพ่อของเขาได้จากไปแล้ว

นอกจากผู้ต้องหาจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว จะต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายให้แก่ทางครอบครัวของตนทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในงานศพ รวมทั้งค่าเลี้ยงดูลูกสาวจนกว่าเขาจะโตขึ้น และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวของตนด้วย

ด้าน นางชะบา นุ่มวัฒนา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 104 หมู่ 3 ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี มารดาของนายสุทธิพงษ์ นุ่มวัฒนา ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และได้เดินทางมาร่วมงานฌาปนกิจศพ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจากผู้ต้องหาที่ยิงลูกชายได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ต่อมามีข่าวลือออกมาว่า ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านที่รู้ข่าว และญาติของผู้เสียหายต่างตกใจเป็นอย่างมากว่าทางเจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวออกมาได้อย่างไร

“โดยเฉพาะตนกลัวว่า ผู้ต้องหาอาจจะไปทำร้ายลูกชายของตนที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมะการักษ์ เพื่อปิดปาก เพราะลูกชายของตนรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นอย่างดี ตนจึงต้องย้ายลูกชายออกจากโรงพยาบาลมะการรักษ์เพื่อนำไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น แต่ตนขอไม่เปิดเผยสถานที่ เพราะอาจจะทำให้ผู้ต้องหา หรือกลุ่มเพื่อนของผู้ต้องหารู้ และไปทำร้ายเอา ทั้งนี้จากข่าวลือดังกล่าวตนจึงอยากสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวจริงหรือไม่”

ด้าน พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากคดีดังกล่าวเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประตัวผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาถูกขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผลัดแรกรวม 12 วัน หลังจากนั้น ผู้ต้องหาก็ยังมีสิทธิที่จะยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

ดังนั้น จึงขอบอกผ่านสื่อมวลชนไปยังแม่ของผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บว่า ขอให้สบายใจได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา หรือหากกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยก็สามารถประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มครองได้

ด้านนายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ได้โทร.ไปสอบถามกับผู้ใหญ่บ้านเจ้าของท้องที่ และพอที่จะทราบสาเหตุในเบื้องต้นแล้ว ส่วนแนวทางการช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะภรรยา และลูกสาวที่มีอายุเพียงแค่ 3 ขวบเศษนั้น ตนจะปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยัง พ.ต.อ.นิพนธ์ จันทร์ทอง ผกก.สภ.ลาดหญ้า ทราบว่า อาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุนั้นเป็นอาวุธปืนเถื่อน ซึ่งตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนปืนอำเภอเมืองกาญจนบุรี ทำการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น