พระนครศรีอยุธยา - คนมักง่ายเผาหญ้าริมถนนเส้นทางวิ่งจากสายเอเชีย ออกเส้นทาง 347 ปทุมธานี-บางปะหัน ในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ทำให้เกิดควันไฟหนาทึบปิดบังทัศนวิสัย ส่งผลให้รถยนต์พุ่งชนกันรวด 4 คัน บาดเจ็บ 3 ราย ตำรวจเตรียมล่ามือเผาหญ้ามาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (18 เม.ย.) ร.ต.ท.ยุทธพงศ์ คชรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ได้รับแจ้งเกิดกลุ่มควันปิดบังทัศนวิสัยบนท้องถนน ส่งผลให้มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายที่บริเวณถนนในพื้นที่ อ.บางอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เส้นทางวิ่งจากสายเอเชีย ออกเส้นทาง 347 ปทุมธานี-บางปะหัน จึงไปตรวจ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรค์
ในจุดเกิดเหตุพบกลุ่มควันปิดบังท้องถนน เจ้าหน้าที่ต้องประสานรถดับเพลิงกว่า 5 คัน จากในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงมาทำการดับเพลิง และกลุ่มควัน ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กฒ 7506 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้า ด้านหลังพังยับเสียหายทั้งคัน ส่งผลให้ผู้โดยสารมาในรถบาดเจ็บ 3 ราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ใกล้กันพบรถยนต์เบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆล 44 กรุงเทพมหานคร สภาพท้ายถูกชนยับ และรถยนต์กระบะนิสสัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บย 2497 พระนครศรีอยุธยา สภาพด้านหน้าและท้ายถูกชนพังยับ นอกจากนี้่ ยังพบรถบรรทุกพ่วง ทะเบียน 83-4699 นครสวรรค์ สภาพด้านหน้าพังยับเช่นกัน
จากการสอบสวน นายภูเบศ ศรีใส อายุ 20 ปี คนขับรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ สภาพพังยับและมีผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มควันปิดบังถนน แม้แต่เสาไฟข้างทางยังมองไม่เห็น เมื่อตนมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นไฟท้ายรถคันหน้ารางๆ จึงเบรก ช่วงนั้นรถพ่วงที่ตามมาด้านหลังได้ชนท้ายรถของตนอย่างจังจนกระเด็นไปชนรถกระบะคันหน้า และรถกระบะคันดังกล่าวพุ่งไปชนรถเบซ์อีกคัน ทำให้มีผู้โดยสารมาในรถได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
นายพนัส ฝ่ายธรรม อายุ 30 ปี คนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ตนเองขับมาถึงตรงจุดเกิดเหตุมองไม่เห็นถนน เห็นแต่กลุ่มควัน จนมาใกล้เห็นไฟท้ายรถจึงได้แตะเบรกแต่ด้วยความเร็วทำให้เบรกไม่อยู่ และมาเห็นเมื่อกระชั้นชิดเนื่องจากกลุ่มควันปิดบัง ทำให้ชนรถเก๋งคันหน้าอย่างจังก่อนจะกระแทกคันข้างหน้าทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ทั้งนี้ เปลวไฟที่แรงยังลุกไหม้ผ้าใบคลุมรถพ่วงอีกด้วย
อย่างไรก้ตาม จากอุบัติเหตุขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนคนขับรถทุกคันอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะเร่งหาตัวคนเผาหญ้าข้างทางเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เนื่องจากทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาได้รับผลกระทบจากกลุ่มควัน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุชนหมู่ครั้งนี้ โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต
