เชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่เร่งล่าตัวฆาตกรซาดิสต์ ฆ่าเปลือยสาวนิรนามในห้องพักโรงแรมดังกลางเมืองเชียงใหม่ เตือนเป็นบุคคลอันตราย ส่วนหญิงสาวที่เสียชีวิตทราบชื่อแล้วเป็นพนักงานร้านบาร์เบียร์
วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีพบศพหญิงสาวนิรนามเสียชีวิตเปลือยกายในห้องน้ำห้องพักโรงแรมชื่อดัง ย่านถนนเจริญประเทศ กลางเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้เบาะแสผู้ตายแล้วว่าชื่อนางสาวสมร คลังเดช อายุ 33 ปี ชาวร้อยเอ็ด ทำงานร้านซูบารุบาร์เบียร์ ย่านถนนลอยเคราะห์ ซอย 3 อ.เมืองเชียงใหม่ และพักอาศัยอยู่กับเพื่อนในอาคารดวงตะวัน คอนโดมิเนียม ย่านเดียวกันกับที่ทำงาน
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางสาวรจนา สาวอ เพื่อนสาวที่พักห้องด้วยกัน รวมทั้งเพื่อนๆ ที่ทำงานเข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลและเบาะแส ทราบว่าหลังร้านปิดผู้ตายได้ไปเที่ยวต่อที่สถานบริการย่านถนนคชสาร ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คาดว่าน่าจะเป็นจุดที่ไปพบกับคนร้าย ก่อนพากันไปร่วมหลับนอนในโรงแรมที่เกิดเหตุ ซึ่งคนร้ายจัดอยู่ในประเภทซาดิสต์ วิตถารในการร่วมเพศ ทั้งกัดหัวนม และใช้ขวดน้ำทางทวารหนักจนขวดน้ำแตก เศษขวดเข้าไปบาดในลำไส้จนตกเลือดทำให้เสียชีวิต และตามใบหน้า ยังถูกทำร้ายอย่างทารุณเข้าขั้นวิปริตวิตถาร
ขณะเดียวกันตำรวจได้กระจายกำลังเร่งหาเบาะแสของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด เส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อเร่งติดตามหาเบาะแสของคนร้ายมาดำเนินคดี แต่ยังติดปัญหาร้านค้าส่วนใหญ่ยังปิดให้บริการช่วงเทศกาลสงกรานต์
ด้าน พ.ต.อ.วีรยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ระบุว่า ผลการชันสูตรพลิกศพผู้ตายพบมีรอยช้ำบริเวณใบหน้า ช่องคลอด และทวารหนักฉีกขาด ในช่องท้องพบขวดน้ำดื่มชนิดเดียวกับที่เหลือในห้อง สันนิษฐานว่าถูกยัดเข้าทางทวารหนัก ชิ้นเนื้อที่พบบนพื้นห้องคือส่วนของลำไส้ และไขมันในช่องท้อง เสียชีวิตเพราะเสียเลือดมากจากการบาดเจ็บของอวัยวะในช่องท้อง ส่วนร่องรอยที่ทวารหนักทำให้เชื่อได้ว่ามีการยัดขวดเข้าไปตอนยังมีชีวิตอยู่
ส่วนพวกอสุจิต้องรอผลการตรวจ เนื่องจากศพเริ่มเน่า มีคราบน้ำลายที่เต้านม เศษเนื้อเยื่อใต้เล็บ น้ำในช่องคลอดกับทวารหนัก ทั้งนี้หัวนมยังอยู่ครบทั้งสองข้าง แต่มีร่องรอยถูกกัดที่หน้าอก 4 รอย ไม่มีบาดแผลถูกแทง
พ.ต.อ.วีรยุทธยังได้ฝากเตือนพนักงานสาวๆ สถานบริการ ร้านคาราโอเกะ และร้านบาร์เบียร์ ในระยะที่เจ้าหน้าที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ให้ระมัดระวังในการออกไปเที่ยวกับลูกค้า ซึ่งอาจเป็นคนร้าย โดยเชื่อว่ายังไม่เลิกพฤติกรรมวิปริตดังกล่าว