ร้อยเอ็ด - ยายวัย 74 เมืองร้อยเอ็ดออกไปบ้านญาติห่างออกไปแค่ 100 เมตร ขณะหลาน 2 คนไปเล่นสงกรานต์กันหมด จู่ๆ เกิดไฟไหม้บ้านจากชั้น 2 กว่าดับเพลิงจะมาถึงก็วอดทั้งหลัง คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 19.30 น.คืนที่ผ่านมา (14 เม.ย.) พ.ต.อ.วีระวัฒน์ สระบัว ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมด้วย ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ วรวงษ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้ประสานกับรถดับเพลิง อบต.เหนือเมือง และเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ไประงับเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฏร หลังจากได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ ขึ้นที่บ้านหนองบัวทอง ม.13 ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด
ถึงที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังไหม้บ้านต้นเพลิงบ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 13 บ้านหนองบัวทอง ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด ของนางสุภาพ เอกวงษา อายุ 74 ปี ที่เป็นบ้าน 2 ชั้น ซึ่งไฟโหมไหม้จนหมดทั้งหลัง และกำลังลามไปไหม้ข้างฝาบ้านเลขที่ 90 ของนางกุหลาบ คำแหงพล อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสุภาพ
พนักงานดับเพลิงต้องระดมกับฉีดน้ำควบคุมเพลิงไม่ให้ลามไปจนหมดทั้งหลัง พร้อมกับพยายามคววบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด และใช้เวลาประมาณ 20นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบปากคำนางสุภาพ เอกวงษา อายุ 74 ปี เจ้าของบ้านให้การว่า ปกติ ตนเองอยู้กับหลานชาย 2 คนโตเป็นหนุ่มแล้ว ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 17.00 น.ตนเองออกมาจากบ้านมาที่บ้านญาติคนหนึ่งห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร ส่วนหลานชายไปแล่นสงกรานต์ ยังไม่กลับ ทำให้ที่บ้านไม่มีใครอยู่
แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังเหมือนประทัดระเบิดขึ้นและเห็นไปลุกโหมไหม้อยู่บนชั้น 2 ของบ้านแล้ว จึงได้ร้องให้คนช่วย กันใช้น้ำเท่าที่มีพยายามดับไฟ แต่ไม่สามารถดับไฟได้
จนกระทั่งรถดับเพลิงมาถึงก็ปรากฏว่าวอดทั้งหลังแล้ว และกำลังจะลามไปไหม้บ้านลูกสาว โชคดีที่รถดับเพลิงช่วยระงับเหตุไว้ได้
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ตนเองไม่ทราบสาเหตุ เพราะตนไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ไม่มีหม้อหรือกาต้มน้ำร้อน พัดลม หรือตู้เย็น มีเพียงโทรทัศน์ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เสียบไฟฟ้าทิ้งไว้ เพราะหลังจากดูเสร็จก็ถอดปลั๊กไฟออกทุกครั้ง และก็ไม่ได้มีการจุดธูปเทียนไหว้พระขณะก่อนออกจากบ้านแต่อย่างใด จึงตอบไม่ได้ว่าต้นเพลิงเกิดจากอะไร
หลังจากสอบสวนปากคำแล้ว พนักงานสอบสวนแจ้งให้เจ้าของบ้านทุกคนไม่ให้เข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะส่งเจ้าหน้าทื่ตำรวจชุดวิทยาการหรือชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป