จันทบุรี - รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดคดีไม้พะยูงส่งต่างประเทศ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม 2 คน พร้อมออกหมายจับผู้อยู่เบื้องหลังไม้พะยูงของกลางที่ตรวจยึดไว้ได้กว่า 1,400 ท่อน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (12 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรแหลมสิงห์ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดคดีไม้พะยูงส่งต่างประเทศ ที่หลายหน่วยงานได้เข้าตรวจยึดไว้ไม้พะยูได้กลางสวนผลไม้ และบ้านพักไม่มีเลขที่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นจำนวนไม้พะยูงกว่า 1,021 ท่อน ไม้พะยูงแปรรูป 445 แผ่น ไม้กันเกรา ไม้ประดู่ 30 ท่อน และเศษไม้พะยู 1 กอง 25.20 ลูกบาศก์เมตร
โดยมี พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ปัญญาเนตรมิตดี ผกก.ฝอ.ภ.จว.จันทบุรี และ พ.ต.อ.ณพล นามนารถ ผกก.สส.สภ.ภ.จว.จันทบุรี ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมในการติดตามเร่งรัดคดี
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม จำนวน 2 คน ที่ขอเข้ามามอบตัว คือ นายประกอบ จำสัตย์ เจ้าของบ้านที่พบไม้พะยูงกว่า 400 ท่อน อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 1 ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี และนางอำไพ พานิชพรรณ์ เจ้าของสวนที่พบไม้พะยูงที่ถูกนำไปซุกซ่อนไว้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การยอมรับว่า ได้มี นายชัยยะ หนือเปียก สุสิตานุสนธิ์ แกลนางสำเภา หรือเจ๊แม็ค สมงาม เป็นผู้ว่าจ้างในการนำไม้พะยูงทั้งหมดมาทำการซุกซ่อนเพื่อเตรียมที่จะส่งต่างประเทศ
โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จะได้ค่าจ้างในการเฝ้าไม้ที่นำมาซุกซ่อนคนละ 2 แสนบาท ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับ นายชัยยะ และนางสำเภา ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของไม้พะยูงทั้งหมดแล้ว ซึ่งล่าสุด นายชัยยะ และนางสำเภา ได้หนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศเพื่อนบ้านได้เร่งรัดจับกุม และส่งตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในประเทศไทยต่อไป ซึ่งไม้พะยูง ไม้กันเกรา และไม้ประดู่หากผ่านออกไปสู่ต่างประเทศได้จะมีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
ในเรื่องนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อมาดูความคืบหน้าของคดีการลักลอบค้าไม้พะยู ซึ่งล่าสุด ก็มีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุด มีผู้ต้องหามามอบตัวอีก 2 คน ซึ่งในส่วนนี้ก็ถือเป็นความร่วมมือของหลายๆ หน่วยงานที่ปฏิบัติงานร่วมกัน ซึ่งตรงจุดนี้ได้ดำเนินการตามแผนยุทธการพิทักษ์ทรัพยากรแผ่นดิน เช่น การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการรวบรวมข้อมูลทางท้องถิ่น
รวมทั้งการดำเนินการต่อเนื่องขยายผลที่จับไม้ได้ และผู้ต้องหาได้ก็จะสืบทราบว่าใครอยู่เบื้องหลังที่ให้การสนับสนุนตรงนี้ รวมทั้งเอา พ.ร.บ.ฟอกเงินเข้าดำเนินการยึดทรัพย์มาใช้ให้เกิดผลอย่างจริงจังต่อไป
ในส่วนผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ได้หลบหนีออกไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับ ตม.เอาหมายที่ศาลอนุมัติหมายจับแล้วขึ้นตรวจสอบดูว่า มีการผ่านเข้าออกต่างประเทศต่อไป
