ฉะเชิงเทรา - เกษตรกรชาวสวนมะม่วงเร่งจัดงานออกร้านระบายผลผลิต หลังอากาศร้อนจัดตั้งแต่ช่วงปลาย มี.ค. จนถึงช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำผลมะม่วงสุกงอมพร้อมกันทั่วทั้งจังหวัด ส่งผลราคารูดลงทันทีถึงกว่าร้อยละ 60 ของราคาผลิตเพื่อส่งออก
วันนี้ (12 เม.ย.) นายมานพ แก้ววงษ์นุกูล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้คุณภาพส่งออก ทั้งน้ำดอกไม้เบอร์ 4 และน้ำดอกไม้สีทอง ได้ทยอยสุกพร้อมกันเป็นจำนวนมากจนเต็มล้นตลาด เนื่องจากอากาศร้อนจัดตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค.58 จนถึงช่วงต้นเดือน เม.ย.58 ที่ผ่านมา จึงทำให้เกษตรกรเก็บผลผลิตออกมาจำหน่ายไม่ทัน โดยบางรายมีผลผลิตสุกงอมร่วงเสียหายเต็มโคนต้น
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก พร้อมด้วยทางจังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานเกษตรจังหวัด ได้พยายามช่วยเหลือเกษตรกร ด้วยการจัดงานวันมะม่วงออกร้านไปตามสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ได้มีการจัดตลาดจำหน่ายมะม่วง และผลผลิตทางการเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง “ไทวัสดุ” ใกล้กับทางแยกสัญญาณไฟจราจรบางพระ ในเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา
โดยเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ของประชาชน เส้นทางผ่านระหว่างถนนสาย 314 บางปะกง-ฉะเชิงเทรา ลงมาจากมอเตอร์เวย์ สาย 7 เข้าถนนเลี่ยงเมืองสาย 365 เพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ซึ่งหากประชาชนที่กำลังเดินทางผ่านต้องการแวะซื้อมะม่วงราคาถูก คุณภาพดีจากเกษตรกรโดยตรง เพื่อนำกลับไปฝากญาติพี่น้องยังภูมิลำเนานั้นสามารถที่จะแวะซื้อได้ในทันที
โดยราคาจำหน่ายปลีกภายในบริเวณงานอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท จากราคาที่เคยทำสัญญาซื้อขายเพื่อส่งออกของฤดูกาลนี้กิโลกรัมละ 120 บาท ส่วนราคาส่งเพื่อจำหน่ายต่อจะสามารถซื้อได้ในราคา 35-40 บาทเท่านั้น จึงอยากให้ผู้คนที่กำลังเดินทางผ่านพื้นที่ได้ช่วยแวะซื้อสินค้าจากเกษตรกรได้โดยตรง จากบริเวณสถานที่จัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าว โดยงานจะจัดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 เม.ย.58 นี้
นอกจากนี้ ในช่วงขากลับหลังจากผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วนั้น ในระหว่างวันที่ 18-27 เม.ย.58 นี้ ทางกลุ่มวิสาหกิจฯ ผู้ผลิตมะม่วงส่งออก พร้อมด้วยทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังจะได้ไปจัดงานจำหน่ายผลผลิตอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง ยังบริเวณภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ในตัวเมืองฉะเชิงเทรา ใกล้กับบริเวณวัดโสธรวรารามวรวิหาร อีกครั้งหนึ่งด้วย