อ่างทอง - พิษพายุฤดูร้อนถล่มหนัก ส่งผลให้นกกระทาที่เลี้ยงในฟาร์มชื่อดังของอ่างทองตายหลายหมื่นตัว โรงเรือนพังทลายเสียหายหลายแสนบาท ด้านปศุสัตว์ลงพื้นที่ดูความเสียหาย เตรียมให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่บริเวณฟาร์มเลี้ยงนกกระทา หมู่ที่ 7 ต.หลักแก้ว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้ถูกพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ทำให้โรงเรือนเลี้ยงนกกระทาพังทลายเสียหายหมด เหลือเพียงเสา และซากนกที่ตายจำนวนมาก โดยนกกระทาที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มกว่า 50,000 ตัว พากันล้มตายและบินหนีหายไปในทุ่งนา ส่วนที่เหลือมีชีวิตรอดอยู่แค่หลักพันตัวเท่านั้น
นายอานนท์ สีเขียวสด อายุ 29 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงนกกระทา เปิดเผยว่า ฟาร์มนกกระทาแห่งนี้อยู่ในกลุ่มฟัก ซึ่งทางผู้ผลิตพันธุ์นกกระทาจะนำไข่ของนกกระทามาให้ฟักไข่ และเมื่อฟักไข่แล้วก็จะเลี้ยงลูกนกกระทาต่อไปอีก 30 วัน ก่อนที่จะส่งไปฟาร์มนกกระทาไข่เลี้ยงต่อไป
หลังจากเมื่อเวลา 05.30 น.ของวันนี้ ได้มีพายุฝน และลมกระโชกแรงพัดหลังคาสังกะสีของโรงเรือนที่ไว้สำหรับอนุบาลลูกนกกระทา และนกกระทาโตแล้วทั้งหมด จำนวน 3 หลัง ปลิวกระจัดกระจายลงไปในทุ่งนาข้างฟาร์ม ส่วนลูกนกกระทาที่อยู่ในบ่ออนุบาลอายุได้ 3 วัน จำนวน 30,000 ตัว ต้องจมน้ำตาย ส่วนนกกระทาอายุ 30 วัน ที่เลี้ยงไว้ จำนวน 20,000 กว่าตัว ต่างบินหนีออกจากโรงเรือนหนีหายไปในทุ่งนา ซึ่งตามจับมาได้ประมาณ 2,400 ตัวเท่านั้น
ส่วนความเสียหายจากการสำรวจดูแล้วประมาณ 700,000 กว่าบาท เพราะราคานกกระทาที่ซื้อมาตกตัวละ 14-15 บาทต่อตัว ยังไม่รวมทรัพย์สินอื่นๆ ที่เสียหาย
นายประสิทธิ์ พวงทอง ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง ที่เดินทางตรวจสอบความเสียหาย กล่าวว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้น การช่วยเหลือต้องเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ และระดับจังหวัดอีกทีว่าจะช่วยเหลือได้ตามเกณฑ์ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องดูในข้อเท็จจริงอีกที หากเกินจากระเบียบก็คงจะต้องหารือว่าจะช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมอย่างไรได้บ้าง โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะลงมาดูแลเพิ่มเติมในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรต่อไป
