xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึงเกณฑ์ทหารท่าอุเทน พบชายฉกรรจ์ฉี่ม่วงถึง 59 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

หน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ตรวจพบชายหนุ่มมีฉี่สีม่วงถึง 59 คน
นครพนม - ตะลึงตรวจเลือกทหารที่อำเภอท่าอุเทน นครพนม พบชายเกณฑ์ทหารตรวจพบฉี่ม่วงถึง 59 คน ส่วนใหญ่เสพยาบ้า ระบุเป็นพื้นที่เสี่ยงปัญหายาเสพติดแนวชายแดน เตรียมส่งบำบัดฟื้นฟู ด้านนายอำเภอท่าอุเทน วางมาตรการเข้มสร้างภูมิคุ้มกันสังคมป้องกันแพร่ระบาดกลุ่มยาวชน นักเรียน พื้นที่อำเภอชายแดน

วันนี้ (7 เม.ย.) บรรยากาศการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการที่ จ.นครพนม ประจำปี 2558 เป็นไปอย่างคึกคัก มีเยาวชนจากพื้นที่อำเภอต่างๆ ทั้ง 12 อำเภอ เดินทางมารายงานตัวเข้ารับการตรวจเลือกระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2558 โดยปีนี้ จ.นครพนม มียอดทหารกองเกินที่ต้องมาเข้ารับการตรวจเลือกประมาณ 3,000 คน มียอดรับไปสังกัดทหารทุกเหล่าทั้งหมด 1,393 คน ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีพ่อแม่ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารตามกำหนด และมีหลายรายที่สมัครใจเข้ารับเป็นทหารกองประจำการ

ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของหน่วยงานสัสดี จ.นครพนม รวมถึงฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ที่ตรวจคัดกรองร่างกายเบื้องต้นก่อนเข้ารับการตรวจเลือก พบสถิติเยาวชนมีสารเสพติดมากกว่า 500 คน ส่วนใหญ่มาจากการเสพยาเสพติดยาบ้า แต่จะต้องผ่านกระบวนการตรวจเลือกทหารตามปกติ และจะได้นำเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูต่อไป

เช่นเดียวกับหน่วยตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มียอดเยาวชนที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือก จำนวน 335 คน รับทั้งหมด 149 คน โดยมี นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอท่าอุเทน ได้ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับทหารพรานที่ 2108 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลอำเภอท่าอุเทน เข้าตรวจร่างกายคัดกรองหาสารเสพติด เนื่องจากเป็นพื้นที่อำเภอชายแดนที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของยาเสพติด พบมีเยาวชนที่เข้ารับการตรวจเลือกมีสารเสพติด ทั้งหมด 59 คน

นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอท่าอุเทน กล่าวว่า อำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสำคัญที่มีปัญหาการลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด ดังนั้น ฝ่ายปกครองจะต้องบูรณาการทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ เพิ่มมาตรการป้องกันปราบปราม การตรวจคัดกรองเยาวชนเข้ารับการตรวจเลือกถือเป็นตัวชี้วัดส่วนหนึ่งนำมาวางมาตรการแก้ไขปัญหา จะต้องประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องนำเข้าบำบัดฟื้นฟู

นอกจากนี้ จะได้จัดทำโครงการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์พบปะกลุ่มเยาวชน นักเรียนลูกหลานเยาวชน สร้างแกนนำเยาวชน ไปถึงผู้นำชุมชนหมู่บ้าน ขยายผลในการสร้างความร่วมมือแก้ไขปัญหาเชิงรุก เพราะหากลดปัญหาผู้เสพได้ เชื่อว่าจะสามารถลดปัญหาผู้ค้าในพื้นที่เช่นกัน ส่วนการลักลอบนำเข้าจะต้องมีการปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง

กำลังโหลดความคิดเห็น