สุดเศร้า ! เรือลากจูงถูกคลื่นซัดจมปากน้ำบางปะกง พ่อสละชีวิตให้ลูกและเมียรอด(ชมคลิป)

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เรือลากจูงถูกคลื่นซัดจมบริเวณปากแม่น้ำบางปะกง แม่คว้าถังน้ำผูกติดกัน 2 ใบ เพื่อให้พ่อ ลูกชายวัย 16 ปี และลูกสาววัย 8 ขวบได้เกาะ ส่วนแม่เกาะกระติกน้ำ แต่เชือกผูกถังเกิดหลุด เหลือเพียงถังใบเดียวไม่สามารถพยุง 3 พ่อลูกได้ พ่อจึงเสียสละให้ลูกเกาะถัง ส่วนตัวเองลอยคอด้วยมือเปล่า และจมไปกับสายน้ำต่อหน้าลูก นานกว่า 6 ชั่วโมง จึงมีเรือมาช่วยแม่และลูกไว้ได้ ส่วนพ่อสูญหาย


วันนี้ (6 เม.ย.) นายพัลลพ อยู่เล่ห์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับการเรือ เจ้าท่า 803 สำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 6 แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เผยว่า ได้รับแจ้งเหตุเรือจมบริเวณปากทางเข้าร่องแม่น้ำบางปะกง และมีผู้รอดชีวิต จำนวน 3 คน ขอให้ทางเจ้าท่าส่งเรือออกไปรับผู้รอดชีวิตด้วย หลังจากรับแจ้งทางเจ้าท่าได้จัดเรือออกไปช่วย และนำมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเกาะลอย อ.ศรีราชา

ในที่เกิดเหตุพบผู้รอดชีวิตอยู่บนเรือประมงอุดมพร ซึ่งได้ช่วยชีวิตไว้แล้วตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยอยู่ในสภาพอิดโรย เพราะต้องลอยคออยู่ในทะเลนานประมาณ 6 ชั่วโมง นอกจากนั้น ยังมีผู้สูญหายจากเรือจมครั้งนี้ 1 คน เป็นชายอายุประมาณ 40 ปี โดยกองทัพเรือได้ใช้เรือ ต.992 กำลังค้นหาผู้เสียชีวิต คือ นายคมกริบ เกตุยิ้ม อยู่ในขณะนี้

ด้านนางรัชนี อินทร์เพ็ญ อายุ 33 ปี พร้อมด้วยเด็กชายอายุ 16 ปี และเด็กหญิง 8 ขวบกล่าวว่า ตนพร้อมสามี และลูก 2 คน กำลังนำเรือลากจูงทรัพย์ทวีลาภ 9 จากพระประแดง มายังแหลมฉบัง เพื่อมาลากเรือสินค้า โดยมาถึงบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงในเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้เกิดคลื่นลมแรงพัดโถมเข้าใส่เรือ ทำให้น้ำไหลเข้าไปในแท็งก์น้ำ และตัวเรือจนทำให้เรือเอียงและจมลง โดยก่อนเรือจะจมนั้นตนได้ใช้ถังน้ำ 2 ใบ ถูกเชือกเพื่อเป็นทุ่นให้สามี และลูก 2 คน ซึ่งลูกทั้ง 2 คนว่ายน้ำไม่เป็นไว้เกาะลอยคอในทะเล ส่วนตนเองใช้กระติกน้ำ

ในจังหวะที่สามี และลูกลอยคออยู่นั้นเชือกที่ผูกถังได้หลุดทำให้เหลือถังน้ำเพียงใบเดียว ซึ่งไม่สามารถพยุงทั้ง 3 คน ให้ลอยคอได้ สามีจึงได้ปล่อยมือเพื่อให้ลูกทั้ง 2 คนเกาะไว้ และอีกไม่นานสามีก็จมหายไปต่อหน้าลูกทั้ง 2 คน และตนก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ทัน จึงต้องเข้าไปดูแลลูกทั้ง 2 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยลอยคออยู่ในทะเลตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึง 6 โมงเช้า จึงมีเรือประมงชื่อ อุดมพร มาเห็น และช่วยเหลือไว้ดังกล่าว

ด้านนายพัลลพ กล่าวว่า ล่าสุด ได้ประสานกับทางบริษัท KPN จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือดังกล่าว มารับผู้ที่รอดชีวิตทั้ง 3 คน กลับบริษัทเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป ส่วนเรือที่จมนั้นจะต้องหาทางกู้ต่อไป เพราะขณะที่เรือจมนั้นเป็นเวลากลางคืนยังไม่ทราบพิกัดที่แน่นอน ซึ่งจะต้องประสานกับกองทัพเรือต่อไป