พิจิตร - ตามส่องตลาดผลไม้ พืชเศรษฐกิจเมืองพิจิตร หนึ่งในยุทธศาสตร์ลดพื้นที่ทำนา วันนี้มะม่วง-ส้มโอดังไกลทั้งเอเชีย ยุโรป ทำรายได้เข้าจังหวัดหลายร้อยล้านต่อปี แต่ “ส้มโอท่าข่อย” พันธุ์พื้นเมืองเจอปัญหาผู้ซื้อในประเทศไปเปลี่ยนชื่อใหม่ ขายราคาสูงกว่าเท่าตัว
นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบชาวสวนส้มโอ อ.โพธิ์ประทับช้าง หนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ลดพื้นที่การทำนาว่า ขณะนี้ถือได้ว่าตลาดไม้ผลของพิจิตรก้าวเข้าถึงเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว โดยมีการส่งออกส้มโอ 3 สายพันธุ์ รวมถึง อ.สากเหล็ก ที่ส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองขนาด 3 ลูกต่อกิโลกรัม ราคา 60 บาท ไปยังประเทศจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง รวมถึงอีกหลายประเทศทั้งในเอเชีย และยุโรป ทำรายได้ 500-600 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนส้มโอ 3 สายพันธุ์ คือ ส้มโอพันธุ์ท่าข่อย ซึ่งเป็นสายพันธุ์พื้นเมือง มีลักษณะเด่น คือ หวานอมเปรี้ยว ไม่มีเมล็ด พันธุ์ขาวแตงกวา และพันธุ์ขาวน้ำผึ้งนั้น ขณะนี้ส่งออกไปยังจีน ฮ่องกง รัสเซีย ดูไบ แคนาดา ที่มีสัญญาซื้อผูกพันต่อเนื่องมาหลายปี ปริมาณมากถึงปีละ 1,700 ตันเศษ และมีผู้ซื้อขาประจำในประเทศ คือ ผู้ค้าในตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไทยเจริญ จ.พิษณุโลก และผู้ซื้อรายย่อย นำไปขายเป็นของฝากของที่ระลึกแถวนครปฐม ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง นครสวรรค์ ปีละไม่น้อยกว่า 21,000 ตัน
นายสุรพล ทองเที่ยง เกษตรจังหวัดพิจิตร และนายพยุงศักดิ์ สิทธิลถ รักษาการเกษตรอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเกษตรกรใน 5 อำเภอปลูกส้มโอ 3 สายพันธุ์ คือ อ.โพธิ์ประทับช้าง 7,230 ไร่ เกษตรกร 283 ราย อ.เมือง 2,340 ไร่ เกษตรกร 127 ราย อ.ตะพานหิน 493 ไร่ เกษตรกร 42 ราย อ.บึงนาราง 160 ไร่ เกษตรกร 18 ราย อ.บางมูลนาก 78 ไร่ เกษตรกร 17 ราย อ.สามง่าม 73 ไร่ เกษตรกร 10 ราย อ.ดงเจริญ 66 ไร่ เกษตรกร 9 ราย และผู้ปลูกรายย่อยอีกรวมแล้ว 10,465 ไร่ เกษตรกร 515 ราย ผลผลิตโดยรวม 26,000 ตันเศษ
ด้านนายบุญเกิด มีทวี กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็ม.ที. ฟรุ๊ต โปรดักส์ จำกัด ศูนย์รับซื้อและรวบรวมผลผลิต อ.โพธิ์ประทับช้าง กล่าวว่า รับซื้อผลผลิตของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของกลุ่มตลอดทั้งปีในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 7-10 บาท ภายใต้เงื่อนไขเป็นผลแก่ มีอายุที่เหมาะสมแก่การบริโภค ลดการใช้สารเคมี และต้องปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ เปลือกลูกส้มต้องไม่มีแมลงกัดกิน ในปี 57/58 ได้ส่งขายต่างประเทศปีละ 120 ตู้คอนเทนเนอร์ (1 ตู้ประมาณ 20 ตัน) รวบรวมผลผลิตคัดแยกขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ทุกวันพฤหัสบดี-ศุกร์
สำหรับตลาดและปริมาณช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์จะมีผลผลิตน้อย เดือนสิงหาคม-กันยายนจะมีผลผลิตมาก ส่วนเรื่องราคาช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ราคาตกต่ำ ช่วงที่ได้ราคาสูงคือเดือนสิงหาคม-กันยายน (ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์) จะเป็นช่วงที่ส้มโอขายดี เพราะชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนนิยมซื้อไปบวงสรวงและเซ่นไหว้บรรพบุรุษ
ขณะที่นางนวลจันทร์ ก้อนแก้ว เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอท่าข่อย บนพื้นที่ 9 ไร่ กว่า 200 ต้น กล่าวว่า สวนส้มโอท่าข่อยของตนเป็นมรดกตกทอด แต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงโดยนำกิ่งพันธุ์ขาวแตงกวา ขาวน้ำผึ้ง ทองดี มาเสียบยอดต้นพันธุ์ท่าข่อยหรือพันธุ์พื้นเมือง ราคาขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 7-10 บาทก็พออยู่ได้ แต่อยากฝากถึงเพื่อนเกษตรกรว่าต้องรักษาคุณภาพ รักษาชื่อเสียงของส้มโอท่าข่อยพิจิตร เพราะทุกวันนี้ส้มโอในพิจิตรขายได้ยากมาก มีแต่พ่อค้ามารับซื้อจากพิจิตรแล้วไปขายที่อื่น เปลี่ยนชื่อจากส้มโอท่าข่อยพิจิตรไปเป็นชื่อขาวแตงกวา ขาวน้ำผึ้ง ทองดี กลับขายได้ราคา 20-25 บาท
ทั้งนี้ หากสนใจสั่งซื้อหรือต้องการเยี่ยมชมสวนส้มโอท่าข่อย ไม้ผลของดีขึ้นชื่อของจังหวัด ติดต่อได้ที่ โทร. 08-3604-6313, 09-7232-6899