ชาวกาฬสินธุ์โวยเทศบาลฯ อ้างถังแตกเมินซ่อมประปา ทำ ปชช.เดือดร้อนยกหมู่บ้าน

กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านตำบลคำเหมือดแก้ว อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ โวยผู้บริหารท้องถิ่นไม่แก้ไขปัญหาน้ำประปาไม่ไหล ทำชาวบ้านเดือดร้อนมานานถึง 10 เดือน ต้องซื้อน้ำกิน และตักจากก้นบ่อไปใช้พอประทังชีวิต เคยร้องทุกข์หลายครั้งยังเพิกเฉย อ้างไม่มีเงินซ่อมแซม

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่บ้านป่าหวาย หมู่ 4 ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนชาวบ้านกว่า 30 คน ได้รวมตัวกันปรับทุกข์ และร้องเรียนผู้นำชุมชน พร้อมร่วมตรวจสอบกรณีน้ำประปาหมู่บ้านไม่ไหล ทำให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงเผชิญภัยแล้ง

นายจำนง เสนาฤทธิ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว กล่าวว่า ชาวบ้านป่าหวาย 100 ครัวเรือน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภาวะขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้เป็นอย่างมาก จากเดิมที่เคยได้ใช้น้ำจากระบบประปาความดันสูง ที่หนองแดง แหล่งน้ำสาธารณะประจำหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 800 เมตร แต่นับจากเดือนมิถุนายน 2557 เป็นต้นมา เกิดปัญหาน้ำประปาไม่ไหล เนื่องจากระบบไฟที่หอประปาเกิดการชำรุด จึงไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้ได้

ทั้งนี้ เคยนำปัญหาดังกล่าวไปตั้งกระทู้ถามผู้บริหารท้องถิ่นในการประชุมสภาหลายครั้ง แต่ยังเพิกเฉย ไม่ได้เข้ามาแก้ไข อ้างว่าไม่มีงบประมาณซ่อมแซม

นายจำรัส เรืองจันทร์ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 15 ตัวแทนชาวบ้านป่าหวาย หมู่ 4 กล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั้งหมู่บ้าน ตลอดระยะเวลา 10 เดือน ที่น้ำประปาไม่ไหล ก็พึ่งตัวเองด้วยการซื้อน้ำ และตักน้ำตามบ่อ ที่ไร่นามาใช้ประทังชีวิต ถึงแม้สภาพน้ำจะขุ่นข้น มีตะกอน ไม่สะอาด แต่ก็จำเป็นต้องตักมาใช้ เนื่องจากผู้บริหารท้องถิ่นไม่เข้ามาแก้ปัญหา จะมีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบ้าง โดยให้รถส่งน้ำของเทศบาลฯ มาแจกจ่าย แต่ก็ไม่ทั่วถึง

โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เป็นช่วงฤดูแล้ง น้ำตามแหล่งธรรมชาติ และตามบ่อที่นาแห้งขอดไป ทำให้ชาวบ้านได้รับความลำบากมากขึ้น ทั้งน้ำกินน้ำใช้ และรดพืชผักสวนครัว ถือเป็นภาวะวิกฤตขาดแคลนเป็นอย่างมาก ที่ชาวบ้านประสบกับความอดอยาก และพืชผักสวนครัวแห้งตาย จึงได้เข้าร้องเรียนผู้นำชุมชนเพื่อหาวิธีการแก้ไขต่อไป เพราะช่วงนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก

ด้าน นายจี ออกประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้านป่าหวาย กล่าวว่า จากท่าทีที่เพิกเฉยไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้องของผู้บริหารดังกล่าว ทราบว่า จะไปหาแหล่งสร้างประปาแห่งใหม่ ซึ่งจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท ขณะที่หากเข้ามาแก้ไขที่หนองแดงจุดเดิม วงเงินคงไม่เกิน 2 หมื่นบาท จะประหยัดงบประมาณของทางราชการได้มากกว่าหลายเท่า และสามารถใช้ได้ทันทีเพราะมีปริมาณน้ำเพียงพอ

“เคยใช้มา 10 ปี ไม่เคยมีปัญหา อีกอย่างก็อยากทราบว่า รายได้จากการเก็บค่าน้ำของเทศบาลฯเดือนละประมาณ 5 หมื่นบาทนั้นไปไหน ทำไมบอกว่าไม่มีเงินมาซ่อมแซม การกระทำของผู้บริหารจึงขัดต่อนโยบายรัฐบาล คสช.ที่ไม่มอบความสุขให้ชาวบ้าน วอนหน่วยงานรับผิดชอบตรวจสอบด้วย”