ประจวบคีรีขันธ์ - กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึกขณะ 2 คนร้าย ใช้รถจักรยานยนต์ตามเหยื่อที่เป็นหญิงสาวสวมสร้อยคอทองคำ เมื่อสบโอกาสขับรถประกบรถเหยื่อกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จนรถเหยื่อล้มลงได้รับบาดเจ็บ ตำรวจ สภ.ปราณบุรี เร่งแกะรอยหาเบาะแสไล่ล่าคนร้าย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (1 เม.ย.) ร.ต.ท.ประมณฑ์ ผอบเพชร ร้อยเวร สภ.ปราณบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายกระชากสร้อยหญิงสาว ได้สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทไป เหตุเกิดภายในถนนซอยบ้านเมตตา หลังตลาดสดฉัตรแก้ว หมู่ที่ 2 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
พบชาวบ้านกำลังจับกลุ่มพูดคุยกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พบ น.ส.อัญชุลี เรืองศรีวราพร อายุ 38 ปี กำลังยืนอยู่ด้วยอาการตัวสั่นตกใจพร้อมกับหลานอายุ 10 ขวบ ที่อยู่ในเหตุการณ์ พร้อมให้ดูร่องรอยที่คอเสื้อที่ถูกคนร้ายกระชากสร้อยจนขาด และบาดแผลถลอกที่แขน จากการสอบสวน น.ส.อัญชุลี กล่าวว่า ตนกับหลานขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปกินก๋วยเตี๋ยวกันที่หลังตลาดสดฉัตรแก้ว
หลังจากกินเสร็จก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อโจ๊กที่ตลาดโต้รุ้งโก๊แก้ว เพื่อมาให้แฟน ขากลับบ้านระหว่างขับขี่รถจักยานยนต์ใกล้จะถึงหน้าบ้าน ตนกำลังจะเลี้ยวไปจอดใต้ร่มไม้ฝั่งตรงข้ามบ้าน ระหว่างนั้นสังเกตเห็นมีรถจักรยานยนต์ขี่ตามหลังมาตนจึงได้ชะลอรถเพื่อให้รถจักรยานยนต์ที่วิ่งตามหลังมาแซงไป แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อรถจักรยานยนต์คันดังกล่าววิ่งมาถึง คนที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้มือมากระชากสร้อยคอของตนจนขาด ทำให้รถตนล้ม พร้อมกับหลานสาวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังจากนั้น ตนลุกขึ้นได้ก็ตะโกนเรียกให้คนช่วย ระหว่างนั้นคนร้ายได้ไปกลับรถจักรยานยนต์ขับย้อนกลับด้วยความเร็ว ตนตั้งสติได้จึงหยิบถุงใส่โจ๊กปาใส่คนร้ายจนถุงแตก แต่คนร้ายก็ยังเร่งความเร็วหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน โดยคนขับสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีเทา ใส่กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สวมรองเท้าหุ้มส้นสีขาว ใส่หมวกกันน็อกเป็นคลุมศีรษะสีดำ ส่วนคนที่ซ้อนท้ายเป็นชายสวมเสื้อแจ็กเกต ยีนส์สีดำ สวมกางเกงสีดำ สวมรองเท้าแบบหุ้มส้นสีขาว สวมหมวกกันน็อกสีดำลายเขียวแบบคลุมศีรษะ
จากพฤติกรรมคนร้ายน่าจะมาเฝ้าคอยสังเกต เมื่อเห็นเหยื่อเป็นหญิงสาวสวมสร้อยคอทองคำมาซื้อสินค้า เมื่อเห็นเหยื่อขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน คนร้ายก็ขี่รถติดตามเหยื่อไปห่างๆ เมื่อมาถึงซอยไม่มีคนพลุกพล่าน ปลอดคน คนร้ายจึงเร่งเครื่องมาประกบกับรถเหยื่อ และให้คนซ้อนท้ายเป็นคนกระชากสร้อยทันที
จากการสังเกตทราบว่า คนร้ายน่าจะไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะหลังจากที่คนร้ายกระชากสร้อยไปได้แล้วคนร้ายได้กลับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาเพื่อหลบหนี ซึ่งจริงๆ แล้วซอยดังกล่าวไม่ใช่เป็นซอยตัน สามารถวิ่งตรง และเลี้ยวออกไปได้
ส่วนเหตุการณ์คนร้ายกระชากสร้อยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนี้ สร้างความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้