พิจิตร - ตำรวจเมืองชาละวันซ้อนแผนรวบพระสงฆ์หนุ่มเมืองชาละวันคากุฏิวัด หลังบวชมาแล้ว 13 พรรษายังไม่ซึ้งรสพระธรรม กลับเปิดกุฏิขายยาบ้าให้พระ-ลูกศิษย์วัด และวัยรุ่นในหมู่บ้าน ก่อนขยายผลจับคนขายต่อ
วันนี้ (18 มี.ค.) พ.ต.ท.ยินดี เมฆโพธิ์ สว.กก.สส.ภ.จว.พิจิตร เปิดเผยว่า หลังตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดได้สืบทราบมีพระสงฆ์แอบค้ายาบ้า โดยขายให้กลุ่มพระสงฆ์ด้วยกัน และลูกศิษย์วัด เด็กวัยรุ่นที่อยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งมีการใช้รหัสเคาะกุฏิ “หลวงพี่ มีของดีไหม” จึงจะซื้อได้ จึงให้สายลับแฝงตัวใช้เงิน 400 บาทล่อซื้อยาบ้า 2 เม็ด และให้ ร.ต.อ.ไพรัช เสนามาตย์ และ ด.ต.เอนก ขะสะอาด กับพวกเป็นชุดซุ่มดู
เมื่อเห็นว่ามีการซื้อขายยาบ้ากันสำเร็จ เจ้าหน้าที่จึงบุกเข้าจู่โจมจะจับกุมพระสมนึก หรือ นายสมนึก แจ้งมงคล อายุ 36 ปี ซึ่งบวชเป็นพระอยู่ที่วัดท่าข่อย ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.พิจิตร มาแล้ว 13 พรรษา แต่พระสมนึกได้ขัดขืนและวิ่งเข้าไปขังตัวเองอยู่ในกุฏิ ตำรวจต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานจึงยอมเปิดประตูกุฏิ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในกุฏิพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในปลอกปากกาอีก 9 เม็ด
สอบสวนพระสมนึกให้การรับสารภาพว่าขายยาบ้ามาแล้ว 2 ปี โดยลูกค้าเป็นพระสงฆ์ในวัด และเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในหมู่บ้านรอบๆ วัด โดยรับยาบ้ามาจากนายพลพัฒน์ นาพิจิตร หรือ “ต้อง” อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/2 หมู่ 7 ต.เมืองเก่า อ.เมืองพิจิตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้พระสมนึกโทรศัพท์สั่งซื้อยาบ้าจากนายต้อง 20 เม็ด โดยให้นำมาส่งที่กุฏิ ก่อนที่ตำรวจที่ซุ่มอยู่จะเข้าจับกุม และไปค้นที่บ้านได้ยาบ้าอีก 194 เม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งดำเนินคดีทั้งคู่ในข้อหาพยายามจำหน่าย และมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จากนั้นได้นำตัวไปสึก และนำตัวส่งร้อยเวร สภ.เมืองพิจิตรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป