กาญจนบุรี - เจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เมืองสุพรรณบุรี นำกำลังค้นบ้านเช่ากลางทุ่งนาในเขตพื้นที่อำเภอศรีประจันต์ พบสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทงู เต่า ตะพาบน้ำ ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท คาดเตรียมส่งไต้หวัน
เมื่อเวลา 13.40 น.วันนี้ (15 มี.ค.) นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ นายอำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า พบสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทงู เต่า ตะพาบน้ำ ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเช่าเลขที่ 149 หมู่ 4 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ นายมนตรี พงษ์เผือก ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอศรีประจันต์ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และ ร.ต.ท.ธนกฤต สอดสี พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ นำกำลังร่วมกันเข้าไปตรวจสอบ
ไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่กลางทุ่งนาลักษณะเป็นบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียว ข้างบ้านมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ ส่วนรั้วรอบบ้านปิดด้วยแสลนสีดำจนทึบ มี น.ส.มณธิชา พุ่มพวง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122/1 หมู่ 9 ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ดูแลบ้านหลังดังกล่าวอยู่ เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบที่ใต้ถุนบ้าน พบงูเห่า งูสิงห์ รวมทั้งงูทางมะพร้าวตัวขนาดใหญ่อยู่ในถุงตาข่ายสีน้ำเงิน ขังเอาไว้ในลังพลาสติกแบบมีช่องอยู่เป็นจำนวนมาก ข้างตัวบ้านมีห้องเก็บของอยู่จากการตรวจสอบพบงูทั้ง 3 ชนิด อยู่ในลักษณะเดียวกันอยู่อีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันคัดแยกงูแต่ละชนิดออกจากกัน คาดว่ามีมากกว่า 3,000 ตัว นอกจากงูเจ้าหน้าที่ยังพบ เต่า และตะพาบน้ำ อีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงอายัดเอาไว้ตรวจสอบเพื่อหาที่มา
นายมนตรี พงษ์เผือก ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอศรีประจันต์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านแจ้งมาที่อำเภอศรีประจันต์ ว่า ขณะทำการขึงลวดไฟฟ้าล้อมที่นาเพื่อป้องกันไม่ให้หนูนาเข้ามากัดกินข้าวที่ปลูกอาไว้ แต่ผลปรากฏว่า มีงูเห่าถูกไฟฟ้าช็อตตายเป็นจำนวนมาก จึงเกิดความสงสัยว่าบ้านหลังดังกล่าวอาจจะมีการนำงูมาซุกซ่อนเอาไว้
ดังนั้น นายธนิศร์ วงศ์ปิยะสถิตย์ นายอำเภอศรีประจันต์ จึงให้ตนประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และพบว่า ภายในบ้านมีเง่าเห่า และงูชนิดอื่นๆ ถูกขังเอาไว้ภายในบ้านจริง หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น และยึดของกลางเอาไว้ น.ส.มณธิชา ผู้ดูแล ได้พยายามติดต่อไปยังนายทุนชาวไต้หวัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดมอบให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดูแล และนำตัว น.ส.มณธิชา ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง
สำหรับบ้านหลังดังกล่าว มี นายเสน่ห์ ศรีเมือง อายุ 66 ปี เป็นเจ้าของ แต่ให้คนรู้จักกันเช่าอยู่เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2557 ต่อมา มีนายทุนเป็นชาวไต้หวันมาเช่าต่ออีกทอดหนึ่ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าของกลางทั้งหมดมีมูลค่ามากกว่า 3 ล้านบาท และเตรียมที่จะนำส่งไปยังเกาะไต้หวัน