นครปฐม - ตำรวจนครปฐม ตามรวบ “หน่อง บ่อพลับ” 1 ใน 8 คนร้ายที่ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า 500 กว่านัดรับปีใหม่ได้แล้ว คุมตัวสอบสวนรับสารภาพหลังก่อเหตุหลบกบดานรีสอร์ตหลายจังหวัด ตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัวหลายคดี ค้านประกันตัวเร่งสอบเพิ่ม
เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น.คืนวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุนทร อำนวยโชค ผกก.สภ.สามควายเผือก พ.ต.ท.พีระวุฒิ พีระวุฒันธุ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ณัฐกฤษณ์ เผื่อนปฐม สว.สส. และชุดสืบสวน ได้ร่วมกันสอบสวน นายสิทธิธา จำปาอ่อน หรือฉายา “หน่อง บ่อพลับ” อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 รายที่ 8 ซึ่งเป็นรายสุดท้ายหลังจากติดตามจับกุมมากว่า 2 เดือน
พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า ในการจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายสิทธิธา จำปาอ่อน หรือฉายา “หน่อง บ่อพลับ” อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.6 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม ตามหมายจับกุมที่ จ.5/2558 ลงวันที่ 6 มกราคม 2558 ของศาลจังหวัดนครปฐม ในข้อหากระทำความผิดมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีเครื่องอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุอันสมควรและยิงปืนซึ่งได้ใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน ที่ชุมชน
โดยเหตุการณ์เกิดที่อาคาร้าง ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม และสามารถจับกุมได้เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 12 มี.ค.ที่ ร้านอาหารใบหยกไม่มีเลขที่ ม.4 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม หลังนั่งรถยนต์เก๋งหรูโตโยต้าแคมรี่ สีดำ กับแฟนสาวเพื่อจะเข้าไปธุระ
จากการสอบสวน นายสิทธิธา จำปาอ่อน หรือฉายา หน่อง บ่อพลับ รับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ปรากฏในคลิปภาพการยิงปืนขึ้นฟ้าที่มีการส่งเผยแพร่ไปในโลกโซเชียลจริง โดยหลังก่อเหตุได้ทราบจากพนักงานร้านสะดวกซื้อว่า มีคลิปตนปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ยิงปืนขึ้นฟ้าร่วมกับเพื่อน 8 คนจนเป็นข่าวโด่งดัง และเจ้าหน้าที่สามารถเก็บปลอกกระสุนได้กว่า 500 นัดจริง ซึ่งเห็นคนอื่นยิงกันจึงได้นำอาวุธปืนของพี่ชายที่ทำงานในเทศบาลตำบลบ่อพลับ เป็นปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อกล๊อกออกมายิงจนหมดแมกกาซีน
จากนั้นเมื่อรู้ว่าถูกถ่ายคลิปจึงรีบจัดกระเป๋าหลบหนีไปอยู่ตามรีสอร์ตต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี เป็นเวลา 2 เดือน 10 วัน โดยใช้เงินเก็บสะสมประทังชีวิตมาตลอดเวลา เพราะช่วงก่อนเกิดเหตุมีรายได้ดีจากการรับชำแหละเนื้อสุกรเพื่อจำหน่ายถึงวันละ 2,000 บาท และยังวนเวียนกลับมาบ้าน และแฟนสาวก่อนจะมาถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ยังได้ตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่า นายสิทธิธา หรือ หน่อง บ่อพลับ มีประวัติการต้องคดีมาอย่างโชกโชน ทั้งคดีพยายามฆ่า และคดีเกี่ยวกับอาวุธปืน และทำให้เสียทรัพย์อีก 2 คดี โดยจะมีการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งถือเป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่งที่ต้องมีการทำประวัติอาชญากรรมไว้อย่างละเอียด โดยได้ส่งมอบให้ พ.ต.ต.ธนิศร เอกรัตนณัฐ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สอบปากคำเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
