xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งแชต LINE หลอกขายรถสวมทะเบียนระบาดอีสาน ตร.ภ.4 บุกยึดคืน 13 คัน มูลค่ากว่า 5 ล้านบ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท. บุญเลิศ ใจประดิษฐ์  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถ จยย.ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงผลตรวจยึดรถยนต์คดีลักทรัพย์ ยักยอก และสวมทะเบียน 13 คัน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ผบช.ภ.4 เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการซื้อขายรถกันในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะการแชตผ่าน LINE แบบไม่เห็นหน้า หลังพบประวัติก่ออาชญากรรมตั้งแต่ปี 56 มีผู้เข้าแจ้งความถูกหลอกกว่า 50 ราย


วันนี้ (10 มี.ค.) พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 แถลงผลการตรวจยึดรถยนต์คดีลักทรัพย์ ยักยอก และสวมทะเบียน จำนวน 13 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ในคดีลักทรัพย์ 2 คัน รถยนต์ในคดียักยอกทรัพย์ 1 คัน รถยนต์ที่มีการสวมทะเบียนจากรถอีกคัน โดยนำมาหลอกขายให้แก่ประชาชน 10 คัน

โดยรถยนต์ส่วนใหญ่สามารถตรวจยึดได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และช่วงตะเข็บชายแดนฝั่งประเทศพม่า โดยมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้สืบสวนหาข่าวติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องต่อการโจรกรรมรถและติดตามตรวจยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม หรือถูกฉ้อฉลไปในคดีของการแชร์รถเช่าที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4

รวมถึงตรวจยึดรถยนต์ที่มีการสวมทะเบียนปลอมซึ่งอาจจะนำไปก่ออาชญากรรมได้ โดย 1 ในรถยนต์ที่ตรวจยึดได้มีการดัดแปลงเอาเบาะออกทั้งหมดบริเวณด้านหลังของตัวรถ หวังตบตาเจ้าหน้าที่ให้เชื่อว่าเพื่อลักลอบขนไม้พะยูง

พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า สำหรับรถยนต์ที่ตรวจยึดได้ในพื้นที่รับผิดชอบมีจำนวนทั้งหมด 13 คัน ส่วนมากเป็นรถยนต์กระบะซึ่งวันนี้มีตัวแทนจาก 2 บริษัทไฟแนนซ์ติดต่อมารับรถแล้ว จำนวน 2 คัน ซึ่งจากการสืบสวนยังพบอีกว่า มีรถยนต์อีกหลายคันที่ยังรอการเข้าตรวจยึดอยู่

พล.ต.ท.บุญเลิศ ยังกล่าวอีกว่า อยากแจ้งเตือนไปยังประชาชน ว่า ในการซื้อขายรถยนต์อย่าหลงเชื่อผู้ที่อ้างว่าขายรถยนต์ในราคาที่ถูกเกินจริง โดยเฉพาะการซื้อขายกันในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกันทางเว็บไซต์ หรือคุยกันผ่านแอปพลิเคชัน LINE และ facebook โดยประชาชนส่วนมากที่ถูกหลอกมีการติดต่อซื้อขายกันโดยที่ไม่มีการเจอหน้า จากนั้นก็นัดเจอเพื่อจ่ายเงิน และรับรถยนต์ตามปั๊มน้ำมัน หรือในห้างสรรพสินค้าต่างๆ

โดยในการส่งมอบรถนั้นไม่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายใดๆ ซึ่งผู้ที่ขายรถจะพูดคุยหลอกล่อเหยื่อโดยอ้างว่าเอกสารการโอนรถต่างๆ จะจัดการให้ทุกอย่างหลังจากส่งมอบรถเสร็จสิ้น หลังจากจ่ายเงินรับรถยนต์แล้ วตัวเหยื่อและผู้ที่ขายรถก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกทั้งใน LINE และ facebook มีการบล็อก และลบชื่อออก เมื่อมีการตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ที่ซื้อขายรถปรากฏว่าปิดหนีไม่สามารถติดต่อได้

จากกรณีดังกล่าว เหยื่อไม่สามารถรู้ได้เลยว่ารถยนต์ที่ซื่อมานั้นมีที่มาที่ไปจากไหน เมื่อถูกตำรวจตรวจสอบก็พบรถยนต์เป็นรถที่หนีไฟแนนซ์ และเป็นรถหลุดจำนำที่ถูกสวมทะเบียนปลอมมาหลอกขายในราคาถูก กรณีรถหลุดจำนำซื้อมา 3 หมื่น แต่มาหลอกขายได้ในราคาหลายแสนบาท หรือกรณีที่รถติดไฟแนนซ์ผู้ซื้อดาวน์รถมาในราคา 1 แสนบาท แต่ราคารถยนต์ทั้งคันราคา 7 แสนบาท เมื่อหนีไฟแนนซ์ และนำไปเปลี่ยนเอกสาร และสวมทะเบียนมาหลอกขายในราคาถูกไม่ถึง 4 แสนบาท

ทั้งนี้ มิจฉาชีพเหล่านี้นอกจากจะหลอกขายให้แก่ประชาชนแล้วยังนำรถออกขายตามฝั่งตะเข็บชายแดนอีกด้วย





กำลังโหลดความคิดเห็น