บุรีรัมย์ - จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ระดมกำลังพลร่วมวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง อส. อบต. นักเรียน และชาวบ้านเดินหน้าสร้างแนวป้องกันไฟป่าในเขตป่าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดงช่วงหน้าแล้ง หวั่นกระทบกับระบบนิเวศ ทำลายแหล่งอาหารสัตว์ป่า หลังพบสถิติไฟไหม้ป่าปีละกว่า 100 ไร่ ปีนี้ไหม้แล้วกว่า 10 ไร่
วันนี้ (6 มี.ค.) จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ร่วม วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จัดโครงการ “ป้องภัยไฟป่าด้วยพระบารมี” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา โดยการระดมกำลังพลกว่า 100 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) คณะครู นักเรียน และชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบพื้นที่ป่าเขากระโดง สร้างแนวป้องกันไฟ ช่วยกันกวาดใบไม้ ถางหญ้าแห้ง และตัดเศษกิ่งไม้แห้งที่ร่วงหล่นทับถมอยู่เป็นจำนวนมากในเขตป่าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง โดยมี พล.ต.เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ เป็นประธาน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไหม้ป่าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง และป่าสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงรวมเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งทุกปี ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า และลุกลามได้ง่าย เพราะหากเกิดไฟป่าขึ้นในช่วงนี้จะลุกลามไหม้พื้นที่ป่าอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ ทำให้สูญเสียสมดุล ทั้งทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นอันตราย และกระทบต่อแหล่งอาหาร หรือที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าได้
โดยมีเป้าหมายจะดำเนินการทำแนวกันไฟเป็นแนวยาวกว่า 5 กิโลเมตร กว้าง 5-8 เมตร ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ทุกปีที่ผ่านมาจะเกิดปัญหาไฟไหม้ป่าในเขตวนอุทยาน และป่าสาธารณะใกล้เคียง เฉลี่ยปีละกว่า 100 ไร่ และปีนี้ได้เกิดไฟไหม้ป่าแล้วกว่า 10 ไร่
นายรณภพ ณรงค์ หัวหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ระบุว่า การสร้างแนวกันไฟในเขตป่าเขากระโดง เป็นการลดความเสียหาย และผลกระทบจากไฟป่าที่อาจเกิดขึ้นในช่วงหน้าแล้ง เพราะหากเกิดไฟป่าขึ้นแต่ไม่มีแนวกันไฟ จะยากต่อการควบคุม และทำให้ไฟลุกลามไหม้พื้นที่ป่า และอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในเขตป่าดังกล่าวได้ ดังนั้น เชื่อว่าการทำแนวกันไฟในครั้งนี้จะสามารถลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อพื้นที่ป่าได้