น่าน - ประชาชนคนเมืองน่านจับมือนักเรียน นักศึกษา รวมตัวกางแขนโอบกอด-วาดรูปหัวใจติดต้นสักอายุนับร้อยๆ ปีที่ยืนตระหง่านเป็น “อุโมงค์ไม้สัก” บนถนนสายน่าน-ท่าวังผา ไว้อาลัยก่อนถูกตัดทิ้งขยายเป็นถนนสี่เลนเชื่อมเข้า สปป.ลาว
วันนี้ (6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนชาวจังหวัดน่าน และนักเรียน นักศึกษา ได้พากันออกมารวมตัวกางแขนโอบกอด และวาดภาพหัวใจลงบนต้นสักอายุนับร้อยปี ที่ยืนต้นตระหง่านเป็นอุโมงค์ไม้สักบริเวณสองข้างถนนสายน่าน-ท่าวังผา กิโลเมตรที่ 383 ความยาวกว่า 10 กิโลเมตร
เพื่อแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ถึงความรู้สึกรัก และหวงแหน รวมทั้งไว้อาลัยต่อต้นไม้ใหญ่ที่กำลังจะถูกโค่นออกนับร้อยต้น เพื่อขยายถนนตามโครงการก่อสร้างขยายถนนสี่เลนของกรมทางหลวง ที่ตัดผ่าน จ.น่าน ไปออกถนนสายน่าน-ทุ่งช้าง มุ่งสู่ประเทศลาว
นางสาวพรณัชชา วิบูลย์ชื่น นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสตรีศรีน่าน กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นอุโมงค์ต้นไม้เหล่านี้แล้ว จึงรู้สึกเสียดายมากถ้าต้องมีการตัดทิ้งเพื่อขยายถนน หากเป็นไปได้อยากให้มีการพัฒนาไปพร้อมกับการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมแทน
ขณะที่นายแพทย์ บุญยงค์ วงศ์รักมิตร ที่ปรึกษาอาวุโส ประชาคมจังหวัดน่าน กล่าวว่า ป่าและต้นไม้ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดน่าน ถึงแม้ว่าขณะนี้จะถูกตัด ถูกทำลายไปบ้างแล้วก็ตาม เช่นเดียวกันถนนสายนี้มีต้นไม้ใหญ่ตลอดสองข้างทาง จนชาวบ้านเรียกกันว่า “อุโมงค์ต้นไม้” เนื่องจากแต่ละต้นมีขนาดใหญ่ สวยงาม ซึ่งก็น่าเสียดายหากต้องถูกตัดเพื่อขยายถนน
ในโอกาสเดียวกันนี้ยังมีกลุ่มนักศึกษาจากไทยวิจิตรศิลป์เชียงใหม่ นำการแสดงสื่ออารมณ์มาร่วมกิจกรรมเพื่อสะท้อนปัญหา หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม และมีการเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กของกลุ่มอนุรักษ์-เครือข่ายบิ๊กทรี เชิญชวนให้ผู้คนออกมากอดต้นไม้ บันทึกภาพเก็บไว้ให้คนรุ่นลูกหลานได้จดจำว่า อุโมงค์ต้นไม้ธรรมชาติได้เกิดขึ้นในเมืองไทย และเคยอยู่ที่น่าน พร้อมทั้งชวนใส่เสื้อเผ่ารักป่า หรือเสื้อสีดำ ร่วมไว้อาลัยให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่คู่จังหวัดน่านมานานด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคนในพื้นที่จังหวัดน่านเคยรวมตัวกันคัดค้านโครงการดังกล่าวนี้เพราะไม่เห็นด้วยที่จะทำลายธรรมชาติ โดยเฉพาะการตัดอุโมงค์ไม้สักที่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของ จ.น่าน แต่กรมทางหลวงก็ยังไม่มีประกาศยุติการขยายถนนช่วงที่ผ่านอุโมงค์ไม้สักแต่อย่างใด